Continental ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีสำหรับยานยนต์ชั้นนำ ได้ประกาศจัดตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อ Advanced Electronics & Semiconductor Solutions (AESS) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อออกแบบและตรวจสอบวงจรรวมเซมิคอนดักเตอร์สำหรับงานเฉพาะ (application-specific semiconductor circuits) การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Continental กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแยกกลุ่มธุรกิจยานยนต์ออกไปเป็นบริษัทอิสระชื่อ Aumovio

ภารกิจและรูปแบบการดำเนินงานของ AESS
AESS จะดำเนินงานในรูปแบบ “Fabless” ซึ่งหมายถึงการที่บริษัทจะรับผิดชอบในการออกแบบและตรวจสอบเซมิคอนดักเตอร์เอง แต่จะไม่มีโรงงานผลิตชิปเป็นของตนเอง โดย Continental ได้เลือก GlobalFoundries (GF) เป็นพันธมิตรหลักในการผลิตชิป การร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อ:
- เสริมสร้างตำแหน่งทางการแข่งขัน: ตอบรับการพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์
- ปรับปรุงความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน: ลดความเสี่ยงจากปัญหาการหยุดชะงัก
- ลดความเสี่ยงจากปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์: สร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง
ความสำคัญของการลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์
Philipp von Hirschheydt สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ Continental และ CEO ของ Aumovio ในอนาคต กล่าวว่า การตัดสินใจพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ภายในองค์กรจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Continental ทำให้บริษัทสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ยานยนต์ทั่วโลกคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2575 ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ซัพพลายเออร์ยานยนต์รายใหญ่ต้องลงทุนในขีดความสามารถด้านการออกแบบชิปของตนเอง
ความร่วมมือกับ GlobalFoundries และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
นาย Niels Anderskouv ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ GF แสดงความยินดีที่ได้สนับสนุน Continental ในการเปิดตัว AESS เพื่อส่งมอบโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงสำหรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์
Continental เชื่อว่าการจัดตั้ง AESS สอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของกลุ่ม Automotive ที่จะลงทุนในเทคโนโลยีและเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเอง โดย AESS คาดว่าจะช่วย:
- ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์
- สร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
- ลดระยะเวลาในการนำสินค้าออกสู่ตลาด
- สร้างประสิทธิภาพด้านต้นทุนและเพิ่มกระแสเงินสด