วิกฤตสั่นคลอน “ดีทรอยต์แห่งเอเชีย” อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเผชิญมรสุมเศรษฐกิจ-ภัยภาษีสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวัง EV

ประเทศไทยยืนหยัดเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียนมาอย่างยาวนาน ด้วยการลงทุนมหาศาลจากค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทั้ง Mazda, BMW, Volvo, BYD, และ Nissan อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันสู่ยุค ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ไทยกำลังเผชิญความท้าทายอย่างหนัก ทั้งจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ภัยคุกคามจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และความผันผวนในตลาด EV ซึ่งสะท้อนผ่านยอดขายและตัวเลขการผลิตที่ลดลง

เศรษฐกิจและภาษี: เมฆหมอกปกคลุมตลาดรถยนต์ไทย

เศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอลง เห็นได้จากอัตราการเติบโตของ GDP ที่ลดลงเหลือเพียง 1.9% ในปี พ.ศ. 2566 กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนในอนาคตของภาคยานยนต์ ยอดขายรถยนต์หรูในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2568 ลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังถูกคุกคามเป็นพิเศษจากภาษีนำเข้าที่เสนอโดยสหรัฐฯ ซึ่งอาจมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568 ด้วยอัตราที่สูงถึง 36% สำหรับสินค้าไทย หากภาษีนี้ถูกนำมาใช้ อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออกยานยนต์ของไทยไปยังสหรัฐฯ และอาจทำให้ผู้ผลิตพิจารณาย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย

เฮนเนอร์ เลห์เน (Henner Lehne) รองประธานฝ่ายพยากรณ์ยานยนต์ทั่วโลกของ S&P Global Mobility ชี้ว่าภูมิภาคอาเซียนกำลังเผชิญกับการคุมเข้มสินเชื่อ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของตลาดยานยนต์ นอกจากนี้ ตลาดยังกำลังอยู่ในช่วงปรับสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ หลังจากที่ผู้ผลิตเร่งผลิตรถยนต์เกินความต้องการ ทำให้เกิดสินค้าคงคลังสูงเป็นประวัติการณ์

การต่อสู้ในตลาด EV และแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

แม้ว่ายอดขาย EV ในไทยจะพุ่งสูงขึ้นถึง 320% ในปี พ.ศ. 2566 แต่การลดมาตรการจูงใจผู้บริโภคก็ทำให้การเติบโตนี้ชะงักงัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยยังคงเดินหน้าสนับสนุนตลาด EV อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 ได้อนุมัติงบประมาณ 212 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงการอุดหนุน EV และเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568 ได้อนุมัติอัตราภาษีที่ลดลงสำหรับรถยนต์ Plug-in Hybrid EV (PHEV) โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของไทย กล่าวว่ากฎระเบียบใหม่จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศเป็นฐานการผลิต PHEV สำหรับทั้งการขายภายในประเทศและการส่งออก

แม้จะยังคงมีความไม่แน่นอน แต่ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องและการลงทุนของ OEMs ประเทศไทยยังคงมีความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียนได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ที่มา : https://www.automotivelogistics.media/nearshoring/thailands-automotive-supply-chain-challenges-and-opportunities-for-competitiveness-in-asean/47097.article

About pawarit

Check Also

“ยิบอินซอย” และ “โรบินฮู้ด” จับมือ “สถาบันอาหาร” ผนึกกำลังยกระดับร้านอาหารไทยและบริการจัดส่งสู่มาตรฐานใหม่

บริษัท ยิบอินซอย จำกัด และ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด ประกาศความร่วมมือกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าโครงการ “Food x Platform …

Marelli ซัพพลายเออร์ Nissan, Tesla และ Stellantis ยื่นล้มละลายในสหรัฐฯ ท่ามกลางภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ผันผวน

Marelli ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ Magneti Marelli และ Calsonic Kansei ได้ยื่นคำร้องขอล้มละลายภายใต้ Chapter 11 ในสหรัฐอเมริกา การดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาวและเสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานประจำวันของบริษัท