เหล่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทขนาดใหญ่ต่างพร้อมใจกันบอกว่า “ภาษีนำเข้า” กลายเป็นหนึ่งใน “ความท้าทายอันดับต้น ๆ” ของพวกเขาในปีนี้ จากผลสำรวจล่าสุดที่เพิ่งเผยแพร่ออกมา แถมยังบอกอีกว่ากำลัง “เร่งปรับตัว” เพื่อรับมือกับปัญหานี้อย่างจริงจัง

บริษัท Zilliant ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการกำหนดราคา ได้เปิดเผยผลสำรวจ Business Tariff Impact Survey เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นจาก CEO และผู้บริหารระดับสูงอื่น ๆ อีกหลายร้อยคน จากบริษัทที่มีรายได้อย่างน้อย 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า เกือบ 1 ใน 4 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า “ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้า” เป็น “ความท้าทายหลัก” ในการกำหนดราคาของพวกเขาในปี 2025 ซึ่งเป็นรองแค่ “แรงกดดันด้านราคาจากคู่แข่ง” เท่านั้น
เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์นี้ 44% ของธุรกิจที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่า พวกเขามีแผนที่จะ “ผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้าไปยังผู้บริโภค” ในขณะเดียวกัน 42% กล่าวว่าบริษัทของพวกเขาได้ “เปลี่ยนซัพพลายเออร์หรือแหล่งจัดซื้อ” เพื่อตอบโต้มาตรการภาษี
เมื่อมองในระยะยาว 12-24 เดือนข้างหน้า “ภาษีและความไม่แน่นอนทางการค้า” กลับมาเป็น “ความกังวลอันดับต้น ๆ” เทียบเท่ากับการแข่งขันด้านราคาเลยทีเดียว
Stephan Liozu ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคุณค่าของ Zilliant กล่าวว่า “สิ่งที่เราเห็นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวิธีการที่บริษัทต่างๆ เข้าหากลยุทธ์การกำหนดราคา เนื่องจากผู้ตอบแบบสอบถามเข้าใจว่าภาษีจะเป็นความกังวลในวงกว้างสำหรับอุตสาหกรรมของพวกเขา และจะจับตาดูว่าคู่แข่งตอบสนองอย่างไร”
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่ถึง 87% ยังคง “มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการรักษาผลกำไร” ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ Zilliant ชี้ให้เห็นว่าเป็นผลมาจาก 83% ที่ระบุว่าพวกเขากำลังปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ผันผวนโดยใช้ “เทคโนโลยีการกำหนดราคาที่ขับเคลื่อนด้วย AI”
การสำรวจนี้ดำเนินการโดยบริษัทวิจัย Censuswide ในลอนดอน ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึง 2 เมษายน โดยมีผู้เข้าร่วมเป็น CEO จำนวน 200 คน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ หรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ จำนวน 200 คน จากสหรัฐอเมริกา