RISE with SAP กุญแจสู่ธุรกิจแห่งอนาคตที่กลุ่มมิตรผลเลือก

SAP ภูมิภาคอินโดจีนได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มมิตรผลซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำของไทย ที่ได้เลือกใช้ระบบ RISE with SAP ในการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจแบบครบวงจร โดยระบบจะนำเสนอโซลูชันคลาวด์ โครงสร้างพื้นฐาน และบริการให้แก่องค์กร ทั้งนี้ กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลชั้นนำของโลกและผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมเกษตร จะนำระบบ RISE with SAP มาปรับใช้เพื่อรองรับธุรกิจแห่งอนาคต เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ สร้างสรรค์นวัตกรรมได้เร็วยิ่งขึ้น และช่วยขับเคลื่อนความสามารถในกาขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น ด้วยการขับเคลื่อนโดย Clean Digital Core ซึ่งเป็นแกนสำคัญในการดำเนินธุรกิจแบบดิจิตอล

คุณกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท SAP

“ธุรกิจในปัจจุบันล้วนมองหานวัตกรรมอันล้ำสมัยมาปรับใช้   Generative AI  เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ธุรกิจต้องการ การนำ SAP Business AI ที่อยู่บนระบบ ERP คลาวด์เข้ามาใช้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเปลี่ยนจากระบบ ERP แบบเดิม มาเป็นระบบ ERP ที่ทันสมัย  และช่วยตอบโจทย์ทางด้านธุรกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้ได้ข้อมูลที่มีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ  การนำกลยุทธ์ Clean Digital Core เข้ามาใช้จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานและพัฒนาไปในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าบริษัทต่างๆนำมาตรฐานในการขยายและปรับแต่งระบบมาใช้ได้อย่างถูกต้อง บริษัทจะสามารถใช้กระบวนการของ ERP ได้ใกล้เคียงกับมาตรฐานและนำความสามารถใหม่ๆมาใช้ได้มากที่สุด” คุณกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท SAP กล่าว

ตามรายงานของ eConomy SEA ซึ่งรายงานโดย Google, Temasek และ Bain เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยในแง่ของมูลค่าสินค้ารวมหรือ GMV ยังคงใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญในภูมิภาค โดยขยายเป็น 100-165 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี พ.ศ. 2568 และ 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2566 นอกจากนี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติของประเทศไทย ตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้น ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีโดรน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายในการเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุปกรณ์ดิจิทัล และช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถคว้าโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อตอบสนองต่อบริบทที่เปลี่ยนไปของโลกสมัยใหม่

กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลชั้นนำอันดับสามของโลกซึ่งมีพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจที่หลากหลาย เช่น ไฟฟ้าชีวมวล พลังงานหมุนเวียน เอทานอล วัสดุทดแทนไม้ ปุ๋ย และผลิตภัณฑ์ไบโอเบส ได้มีประวัติความร่วมมือกับ SAP มายาว นานกว่า 15 ปี ปัจจุบันมิตรผลมีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จีน ลาว ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย และกำลังพัฒนาปรับปรุงด้านดิจิทัลทั้งองค์กรผ่านการยกระดับระบบ SAP ERP การเปลี่ยนมาใช้ RISE with SAP นับเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบ ERP บนคลาวด์อย่างครบวงจร โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อกลยุทธ์ digital core แบบ asset-light รวมถึงการบูรณาการที่ไร้รอยต่อกับเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยจัดการกับความท้าทายต่างๆ เช่น ความไม่ยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานและการจัดการข้อมูลแบบไซโล เพื่อพัฒนาระบบนิเวศทางดิจิทัลของมิตรผล อย่างมีประสิทธิภาพ

มิตรผลได้รับอันดับที่ 7 จาก 50 บริษัทชั้นนำของไทยสำหรับคนรุ่นใหม่ในปี 2023 ตามการจัดอันดับของ Work Venture โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์ของพนักงานที่ใช้งาน SAP SuccessFactors ในปัจจุบัน ด้วยการใช้ SAP Signavio เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ในมุมของเทคโนโลยี มิตรผลกำลังเปลี่ยนมาใช้ SAP Business Technology Platform (BTP) และ SAP Integration Suite เพื่อบูรณาการ digital core ERP เข้ากับแพลตฟอร์มของบริษัทในปัจจุบัน อาทิ ไฮบริดคลาวด์ ดิจิทัล การวิเคราะห์ข้อมูล และ AI/ML ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยกลยุทธ์นี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนของมิตรผล ที่ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของศูนย์ข้อมูล SAP ลง 70% และช่วยให้สามารถเข้าถึงการทำ green ledger ตามความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะเป็น Net Zero ภายในปี 2050

คุณอธิคม กาญจนวิภู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงาน Digital & Technology Transformation ของบริษัทน้ำตาลมิตรผล จำกัด

“กลุ่มมิตรผลกำลังเดินหน้าขับเคลื่อน farm-to-table transformation โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาฟาร์มอัจฉริยะ โรงงานอัจฉริยะ การเชื่อมต่อเครือข่ายธุรกิจ และแพลตฟอร์มดิจิทัลและ AI ขั้นสูง การใช้ RISE with SAP บน Microsoft Azure จะเป็นสารตั้งต้นในการเร่งกระบวนการขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรด้วยข้อมูลและ AI ซึ่งจะเสริมความแข็งแกร่งและสร้างโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต แพลตฟอร์มนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” คุณอธิคม กาญจนวิภู ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงาน Digital & Technology Transformation ของบริษัทน้ำตาลมิตรผล จำกัด กล่าว

“ในตลาดปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและความต้องการต่างๆมากมาย บริษัทอย่างกลุ่มมิตรผลสามารถตระหนักถึงคุณค่าของระบบ SAP คลาวด์ ด้วย clean digital core ซึ่งตั้งเป้าไปที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วย Business AI และระบบเพิ่มผลผลิตแบบอัตโนมัติ และขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน เราได้เห็นองค์กรที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยระบบคลาวด์ ประสบความสำเร็จในการเติบโตธุรกิจ บรรลุเป้าหมาย และปลดล็อกความได้เปรียบทางการแข่งขันในการเติบโตเศรษฐกิจ AI ได้อย่างต่อเนื่อง” คุณกุลวิภา กล่าวเสริม

เยี่ยมชมศูนย์ข่าว SAP News Center หรือ ติดตาม SAP บน Twitter ได้ที่ @SAPNews

About pawarit

Check Also

ไทยประกันชีวิต คว้ารางวัล Asian Management Excellence Awards 2025

บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) คว้ารางวัลอันทรงเกียรติในงาน Asian Management Excellence Awards 2025 โดยมีนายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นผู้นำพาบริษัทฯ ฝ่าฟันอุปสรรคและขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความสำเร็จ

LMI เปิด ตัวปั๊มเคมี รุ่น TD Series พร้อมเทคโนโลยี FLUXDRIVE เพิ่มความยืดหยุ่นในการควบคุมสูงสุด

LMI Pumps ซึ่งเป็นธุรกิจของ Ingersoll Rand (Ivyland, PA) ประกาศเปิดตัว ปั๊มเคมี รุ่น TD Series ที่มาพร้อมเทคโนโลยี FLUXDRIVE อันเป็นนวัตกรรมใหม่