Siemens Digital Industries Software ได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในวงการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EDA) ด้วยการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาผสานรวมเข้ากับพอร์ตโฟลิโอ EDA อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ ลดเวลาออกสู่ตลาด และขับเคลื่อนนวัตกรรม การประกาศนี้เกิดขึ้นในงาน 2025 Design Automation Conference ซึ่ง Siemens ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ AI ในการพลิกโฉม EDA อย่างแท้จริง

ระบบ EDA AI ใหม่ของ Siemens: Generative AI และ Agentic AI
Siemens ได้เปิดตัว ระบบ EDA AI ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์และ PCB โดยเฉพาะ ระบบนี้มาพร้อมความสามารถ Generative AI (สร้างสรรค์) และ Agentic AI (ตัวแทนอัจฉริยะ) ขั้นสูงที่ปลอดภัย พร้อมความสามารถในการปรับแต่งและผสานรวมอย่างราบรื่นตลอดกระบวนการทำงาน EDA ทั้งหมด
Mike Ellow, CEO, Siemens EDA, Siemens Digital Industries Software กล่าวว่า “เราลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาโซลูชัน AI ระดับอุตสาหกรรมที่สร้างขึ้นเพื่อความซับซ้อนเฉพาะของ EDA โดยเฉพาะ ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานี้เป็นรากฐานทางเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าของเรานำการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์และ PCB ที่ก้าวล้ำออกสู่ตลาดได้เร็วกว่าที่เคย” และเสริมว่า Siemens พร้อมที่จะปฏิวัติวิธีการทำงานของทีมออกแบบ โดยนำพาไปสู่อนาคตที่ความสามารถของ Generative AI และ Agentic AI ถูกรวมเข้ากับทุกแง่มุมของเวิร์กโฟลว์ EDA อย่างราบรื่น
คุณสมบัติเด่นของระบบ EDA AI ใหม่
- เปิดกว้าง ปลอดภัย และปรับแต่งได้: ลูกค้าสามารถรวมข้อมูล EDA ของตนเองและสร้างเวิร์กโฟลว์ที่กำหนดเองด้วย AI ขั้นสูง ช่วยให้ทีมงานใช้ AI ในจุดที่สร้างมูลค่าสูงสุด Siemens รับประกันความปลอดภัยระดับองค์กร, การควบคุมการเข้าถึงที่ปรับแต่งได้, และตัวเลือกการปรับใช้ที่ยืดหยุ่น (On-premises หรือ Cloud) พร้อมการปกป้องข้อมูลในศูนย์ข้อมูลที่ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี Data Lake แบบ Multimodal ที่รวมศูนย์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโต้ตอบ และรองรับโมเดล AI หลากหลายประเภท รวมถึงโมเดลภาษาขนาดใหญ่และขนาดเล็ก, การเรียนรู้ของเครื่อง และการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง
- ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี NVIDIA AI: ระบบ EDA AI ของ Siemens รองรับ NVIDIA NIM microservices และ NVIDIA Llama Nemotron models ด้วย NVIDIA NIM ทำให้สามารถปรับใช้โมเดลที่พร้อมสำหรับการอนุมานได้อย่างยืดหยุ่นในสภาพแวดล้อมคลาวด์และ On-premises รองรับการจัดระเบียบเครื่องมือแบบเรียลไทม์และระบบ Multi-agent ส่วน Llama Nemotron เพิ่มความสามารถในการให้เหตุผลในบริบทที่ซับซ้อนและการเรียกใช้เครื่องมือที่แข็งแกร่ง เพื่อระบบอัตโนมัติที่ชาญฉลาดมากขึ้นทั่วทั้งเวิร์กโฟลว์ EDA
Tim Costa, ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย CAE และ CUDA-X ที่ NVIDIA กล่าวว่า “เอเจนท์ AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมากสำหรับการออกแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อน เพื่อสนับสนุนวิศวกรในการปรับแต่งเลย์เอาต์ การจำลอง และการตรวจสอบ ช่วยให้วิศวกรสามารถมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์และความท้าทายในการออกแบบขั้นสูงได้”
การปลดล็อกขีดความสามารถ AI ทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอ Siemens EDA
Siemens ได้นำ AI มาใช้ในผลิตภัณฑ์หลักหลายตัว ได้แก่:
- Aprisa™ AI software: ผสานรวมอย่างสมบูรณ์ในโซลูชันการใช้งานดิจิทัล ช่วยให้คุณสมบัติและระเบียบวิธี AI ยุคใหม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ RTL-to-GDS มีการสำรวจการออกแบบ AI ที่ปรับแต่งพลังงาน/ประสิทธิภาพ/พื้นที่ (PPA) อัตโนมัติ รวมถึง AI-assist แบบ Generative AI ที่นำเสนอตัวอย่างและโซลูชันพร้อมใช้งาน ด้วยอินเทอร์เฟซภาษาธรรมชาติ Aprisa AI มอบประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น 10 เท่า, ใช้เวลาในการ Tapeout เร็วขึ้น 3 เท่า, และ PPA ดีขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการออกแบบดิจิทัลในทุกเทคโนโลยีการผลิต
- Calibre® Vision AI software: นำเสนอความก้าวหน้าในการรับรองความถูกต้องของการรวมชิป ช่วยให้ทีมออกแบบระบุและแก้ไขข้อผิดพลาดในการออกแบบที่สำคัญได้ในเวลาเพียงครึ่งเดียวของวิธีการที่มีอยู่ ด้วยการโหลดและจัดระเบียบข้อผิดพลาดเป็นกลุ่มอัจฉริยะ ช่วยให้วิศวกรสามารถจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมและทำงานร่วมกันระหว่างการตรวจสอบทางกายภาพ
- Solido™ generative and agentic AI: ใช้ประโยชน์จากระบบ EDA AI ของ Siemens เพื่อมอบความสามารถ AI แบบ Generative AI และ Agentic AI ขั้นสูงทั่วทั้งแพลตฟอร์ม Solido Custom IC เพื่อพลิกโฉมการออกแบบและการตรวจสอบรุ่นต่อไป AI นี้ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับแต่ละขั้นตอนของกระบวนการพัฒนา IC แบบกำหนดเอง รวมถึงการจับภาพวงจร, การจำลอง, การออกแบบและการตรวจสอบที่คำนึงถึงความหลากหลาย, การสร้างลักษณะเฉพาะของไลบรารี, เลย์เอาต์ และการตรวจสอบ IP ช่วยให้ทีมวิศวกรรมบรรลุประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ระบบ EDA AI ของ Siemens กำลังอยู่ในช่วงทดลองใช้งานสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกทั่วพอร์ตโฟลิโอ Siemens EDA ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาและนำเสนอการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์และ PCB ที่ก้าวล้ำออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ที่มา : https://newsroom.sw.siemens.com/en-US/siemens-eda-ai-dac-2025/