“ระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ” นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ยกระดับความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

ระบบจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management System: BMS) เป็นองค์ประกอบสำคัญในยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีความหนาแน่นของพลังงานสูงและอาจเกิดความเสียหายได้หากทำงานนอกเหนือจากสภาวะที่ออกแบบไว้ BMS ป้องกันภาวะความร้อนสูงเกิน (Thermal Runaway) และควบคุมการทำงานของแบตเตอรี่อย่างครอบคลุม

หน้าที่หลักของ BMS:

  • การเฝ้าระวัง: ตรวจสอบกระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้า และอุณหภูมิของแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง
  • การป้องกัน: ป้องกันการชาร์จไฟเกิน (Overcharging) และการคายประจุเกิน (Overdischarging) เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
  • การปรับสมดุล: รักษาสมดุลประจุไฟฟ้าระหว่างเซลล์แบตเตอรี่
  • การประเมินสถานะ: คำนวณสถานะการชาร์จ (SOC) และสถานะสุขภาพ (SOH) ของแบตเตอรี่
  • การควบคุมอุณหภูมิ: ควบคุมอุณหภูมิโดยรวมของชุดแบตเตอรี่

การพลิกโฉมการพัฒนาระบบ BMS ด้วยดิจิทัลและการจำลอง: การพัฒนาระบบ BMS ก้าวหน้าอย่างมากด้วยการนำ การสร้างแบบจำลองดิจิทัลและการจำลอง (Digital Modeling and Simulation) มาใช้ ซึ่งช่วยลดวงจรการพัฒนา ลดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของ EV

  • การจำลองบนเดสก์ท็อป: นักพัฒนาสามารถจำลองระบบแบตเตอรี่ สภาพแวดล้อม และอัลกอริทึมของ BMS บนคอมพิวเตอร์ เพื่อสำรวจแนวคิดการออกแบบและทดสอบสถาปัตยกรรมระบบก่อนสร้างต้นแบบฮาร์ดแวร์จริง เช่น การทดสอบการกำหนดค่าการปรับสมดุล หรือตรวจสอบพฤติกรรมของคอนแทคเตอร์ในกรณีเกิดข้อผิดพลาด
  • การสร้างโค้ดอัตโนมัติและการทดสอบแบบเรียลไทม์: เมื่อการออกแบบ BMS ได้รับการตรวจสอบบนเดสก์ท็อป โค้ด C หรือ HDL จะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติสำหรับการสร้างต้นแบบอย่างรวดเร็ว (RP) หรือการทดสอบแบบ Hardware-in-the-Loop (HIL) ซึ่งช่วยให้การเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมสามารถตรวจสอบความถูกต้องบนฮาร์ดแวร์ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แทนที่จะเป็นหลายวัน การทดสอบแบบ HIL สร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบเรียลไทม์ของชุดแบตเตอรี่และส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อตรวจสอบฟังก์ชันการทำงานของตัวควบคุม BMS ก่อนพัฒนาต้นแบบฮาร์ดแวร์จริง
  • ตัวอย่างความสำเร็จ: Altigreen Propulsion Labs สามารถลดเวลาในการพัฒนาลงได้ครึ่งหนึ่งด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ MathWorks Embedded Coder ในการจำลองและทดสอบวิธีการประมาณค่า SOC ต่างๆ

การประยุกต์ใช้การจำลองใน BMS:

  • การบ่งชี้คุณสมบัติของเซลล์ (Cell Characterization): ปรับแบบจำลองแบตเตอรี่ให้เข้ากับข้อมูลการทดลองเพื่อกำหนดพารามิเตอร์การควบคุมที่สำคัญ เช่น ค่าตัวกรอง Kalman สำหรับ SOC หรือขีดจำกัดพลังงาน
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จเร็ว: การจำลองและการเพิ่มประสิทธิภาพช่วยลดเวลาในการชาร์จให้เหลือน้อยที่สุด ในขณะที่ลดความเครียดบนแบตเตอรี่ เพื่อยืดอายุการใช้งาน

การใช้แบบจำลองดิจิทัลและการจำลองในการพัฒนา BMS ไม่เพียงแต่ช่วยเร่งกระบวนการและลดต้นทุน แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างยานยนต์ไฟฟ้าที่มีความปลอดภัย ประสิทธิภาพสูง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง

ที่มา : https://www.all-about-industries.com/battery-management-through-digital-modeling-simulation-a-3bf78f57b683343268e873f005ec4eb6/

About pawarit

Check Also

บ้านปูรุกธุรกิจ CCUS ผลักดันการลดคาร์บอนเต็มสูบ ปูทางอนาคตพลังงานที่ยั่งยืน

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) มั่นใจต่อการลงทุนธุรกิจ CCUS* ในสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ ด้วยการดำเนินงานที่ครอบคลุมธุรกิจก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ บ้านปูมุ่งตอบโจทย์ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยธุรกิจ CCUS จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างกระแสเงินสดและความมั่นคงทางการเงินให้กับบริษัทฯ เพื่อขับเคลื่อนสู่การเติบโตระยะยาวและบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่า 20% 

Fortune เผยชื่อบริษัทที่ติดอันดับใน Southeast Asia 500 ประจำปี 2025

นิตยสาร Fortune เปิดเผยรายชื่อบริษัทใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปีที่สอง โดยจัดอันดับตาม ‘รายได้ในปีงบประมาณ 2024’ ทั้งนี้นิตยสาร Fortune …