CATL เผย จีนกำลังเร่งผลักดันแบตเตอรี่ EV แบบ Battery-Swapping ภายในปี 2025

ถ้ามีสถานีหรือจุดบริการสำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ Swapping ที่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายใน 5 นาที มันจะกลายเป็นประเด็นสำคัญอย่างแน่นอน เนื่องจากเวลาในการชาร์จยังคงเป็นประเด็นที่ผู้ซื้อรถ EV ยังกังวล แม้แต่หัวชาร์จแบบ Super Charge ที่เร็วที่สุดก็อาจใช้เวลาอย่างน้อยราว 15 นาทีในการชาร์จให้เต็ม

CATL เผยว่า จีนกำลังสร้างความท้าทายครั้งใหญ่ ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยี Battery-Swapping การเปลี่ยนแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสสูงมากที่เทคโนโลยีนี้จะประสบความสำเร็จได้จริงในประเทศจีน เพราะ “จีน มีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศอื่น ๆ มากในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้” แต่อย่างไรก็ตาม ยังคาดเดาไม่ได้ว่าเทคโนโลยี Battery-Swapping จะได้ผลในประเทศอื่นด้วยหรือไม่

Battery-Swapping คืออะไร

Battery-Swapping คือ การสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสะดวกและคล่องตัวมากขึ้นสำหรับตลอดการเดินทาง โดยผู้ขับขี่สามารถจอดรถ ณ จุดเปลี่ยนหรือสถานีที่กำหนดไว้ในขณะที่แบตเตอรี่เหลือพลังงานระดับต่ำ และรับแบตเตอรี่ก้อนใหม่ที่มีพลังงานเต็มสลับทดแทนภายในไม่กี่นาที เทคโนโลยีนี้หากเกิดขึ้นได้จริงจะปลดล็อกการรอคอยชาร์จพลังงานที่แสนยาวนานได้อย่างยอดเยี่ยม

ความท้าทายในเทคโนโลยีนี้ คือ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะต้องติดตั้งเทคโนโลยีที่รองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีรถยนต์รุ่นใดที่มีเทคโนโลยี Battery-Swapping เลย แนวคิดนี้จึงเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่และต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในอนาคตด้วย เพราะนั่นหมายถึง ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่จะต้องยอมรับในแนวคิดนี้เพื่อผลักดันการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้างที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ยิ่งมีจำนวนผู้ใช้งานมากเท่าใดความคุ้มค่าในการลงทุนก็จะสอดคล้องง่ายดายมากขึ้น แต่จะเท่าอย่างไรให้ผู้บริโภครู้สึกสบายใจเมื่อไม่มีแบตเตอรี่เป็นของตัวเอง เพราะจะต้องเปลี่ยนใช้งานร่วมกับผู้ใช้งานรายอื่น ๆ

อีกความท้าทายที่สำคัญมากเช่นกัน คือ เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้บริโภคจะใช้ในการตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่รองรับเทคโนโลยี Battery-Swapping แน่นอนว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อนความสะดวกสบาย แต่เชื่อว่าหากผู้ผลิตชั้นนำยอมรับในการเร่งผลักดันเทคโนโลยีนี้ก็จะมีการกำหนดมาตรฐานที่เชื่อถือได้ร่วมกันอย่างแน่นอน รวมถึงมาตรฐานระดับประเทศต่าง ๆ ด้วย

แล้วทำไมจึงมองว่าจะได้ผลในจีน

เหตุผลแรกเลยก็คือ “จีนมีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศอื่น ๆ มากในการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้”

ไม่เพียงแต่จีนจะเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ในเดือนกรกฎาคม จีนยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าใหม่เติบโตขึ้นถึง 50% และยังครองส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2024

อีกเหตุผลที่ผลักดันให้จีนเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เพราะผู้ประกอบการรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เติบโตผ่านการอุดหนุนจากรัฐบาล ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลมากกว่าที่บริษัทต่าง ๆ ในจีนจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อเร่งพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง และ Battery-Swapping ก็จะเป็นเทคโนโลยีที่จะถูกผลักดันให้เกิดผลขึ้นภายในปี 2025

เคยมีความพยายามในเทคโนโลยี Battery-Swapping มาก่อนแล้ว

ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดอาจเป็นสตาร์ทอัพของอิสราเอลชื่อ Better Place ซึ่งพยายามพัฒนาเทคโนโลยี Battery-Swapping ในปี 2007 แต่บริษัทก็ปิดตัวลงไม่กี่ปีต่อมาหลังจากลงทุนเงินเป็นจำนวนมาก

Battery-Swapping อาจช่วยเรื่องต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันเป็นอุปสรรคต่อการนำมาใช้สำหรับหลาย ๆ คน เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของชิ้นส่วนที่แพงที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า นั่นก็คือแบตเตอรี่

ที่มา : https://www.manufacturing.net/automotive/news/22929235/china-getting-big-electric-car-battery-swapping-boost-in-2025

About pawarit

Check Also

นักวิจัยจีนค้นพบเกลือชนิดใหม่ อาจพลิกโฉมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Lithium-air

หากนักวิจัยชาวจีนประสบความสำเร็จในการทำให้แบตเตอรี่ Lithium-air มีอายุการใช้งานยาวนานพอ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีแบตเตอรี่

Foxconn อาจจะเป็นลมใต้ปีกของ Nissan หลังแผนควบรวม Honda ล่ม

Foxconn บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลของไต้หวัน กำลังปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะพันธมิตรทางการค้าที่เป็นไปได้สำหรับแบรนด์ Nissan ที่กำลังมีปัญหา หลังจากที่การเจรจาควบรวมกิจการกับ Honda ล้มเหลว