ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของจีนหดตัวลงในเดือนเมษายน โดยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนครั้งใหม่จำนวนมาก การปรับตัวลดลง 1.5 จุดเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนของดัชนีนี้

กลุ่มธนาคารข้ามชาติสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ING ระบุว่า ผลลัพธ์ดังกล่าว “ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้” โดยคาดการณ์ PMI ไว้ที่ 49.7 และการคาดการณ์อื่นๆ อยู่ระหว่าง 47.5 ถึง 50.5 ธนาคารระบุว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ” ที่คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกใหม่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุดครั้งหนึ่ง (จาก 49 ในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ 44.7) “สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผลกระทบจากภาษีกำลังเริ่มปรากฏให้เห็น” ธนาคารกล่าว โดยอ้างถึงภาษีใหม่ที่ทรัมป์กำหนดไว้สูงสุดถึง 145 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ที่ผลิตในจีนและนำเข้าไปยังสหรัฐอเมริกา
อัตราภาษีที่สูงมากนี้ได้ทำให้ผู้ค้าปลีกชาวอเมริกันจำนวนมากและซัพพลายเออร์ชาวจีนของพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และทำให้คำสั่งซื้อบางส่วนหยุดชะงัก ดัชนีการจ้างงานในเดือนเมษายนก็หดตัวลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยอยู่ที่ 47.9 “จุดที่เจ็บปวดสำคัญสำหรับจีนในการทดสอบความอดทนระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในปัจจุบันคือสุขภาพของตลาดแรงงาน” ING กล่าว ธนาคารกลางจีนได้ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการและคนงานให้สามารถรับมือกับยุคภาษีนี้ได้
PMI ภาคบริการของจีนทำได้ดีกว่า โดยปรับตัวลดลงจาก 50.8 ในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ 50.4 และยังคงหลีกเลี่ยงการหดตัวเป็นเดือนที่ 28 ติดต่อกัน แม้ว่ายอดส่งออกใหม่ในหมวดนี้จะลดลงอย่างมากจาก 49.8 มาอยู่ที่ 42.2 เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน แต่ผลกระทบดังกล่าวได้รับการบรรเทาลงจากภาคบริการ ซึ่งส่วนใหญ่ให้บริการตลาดในประเทศ
ING ระบุว่าจีน “ยังคงรับมือได้ดีในช่วงเริ่มต้นของการทดสอบความอดทนด้านภาษี” นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ผู้นำเข้าชาวอเมริกันอยู่ใน “โหมดรอและดู” โดยหวังว่าการเจรจาทางการค้าจะเกิดขึ้น และอาจสามารถรักษาสถานการณ์นี้ไว้ได้อีกระยะหนึ่ง หากพวกเขาได้เร่งสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าในช่วงต้นปี “อย่างไรก็ตาม เมื่อสินค้าคงคลังหมดลง หากไม่มีผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ง่ายดาย บริษัทต่าง ๆ จะต้องเลือกระหว่างการจ่ายภาษีหรือยุติการขาย” ING กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา : https://macaonews.org/news/greater-china/china-april-manufacturing-pmi/