Infinium บริษัทผู้นำด้าน eFuels และ Borealis ผู้จัดหาชั้นนำด้านวิธีการพลาสติกขั้นสูงและยั่งยืน ได้บรรลุข้อตกลงในการผลิตพลาสติกที่มีร่องรอยคาร์บอนต่ำ ซึ่งพลาสติกนี้ทำมาจากคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ที่เป็นของเสีย มิฉะนั้นแล้วคาร์บอนไดออกไซด์นี้จะถูกปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ โดยพลาสติกเหล่านี้ เรียกว่า โพลิโอเลฟิน มักใช้ในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงบรรจุภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ทางการแพทย์

ในฐานะผู้ส่งมอบ eNaphtha ทางการค้ารายแรกของโลก ซึ่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนเพื่อทดแทนแนฟทาแบบเดิมที่มีฐานมาจากฟอสซิล Infinium จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดคาร์บอนจากการผลิตพลาสติก และลดการปล่อย CO₂ ที่เป็นอันตรายทั่วโลก
eNaphtha ถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Project Pathfinder ของ Infinium ในเมือง Corpus Christi รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และขณะนี้มี eNaphtha ที่ผลิตขึ้นในทางการค้าถูกส่งไปยังโรงงาน Porvoo ของบริษัท Borealis ในประเทศฟินแลนด์ ซึ่งเป็นการจัดหาวิธีการด้านโพลิโอเลฟินขั้นสูงและยั่งยืนให้แก่ลูกค้าที่เป็นโรงงานผู้ผลิต โดยที่การขนส่ง eNaphtha ในทางการค้าซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกนี้ได้ออกจากสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567
พลาสติกที่ทำจาก eNaphtha ของ Infinium สามารถผลิตได้จากโรงงานที่ใช้อุปกรณ์การผลิตและรีไซเคิลด้วยวิธีการเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากแนฟทาแบบธรรมดา โดย eNaphtha ที่ผลิตจากโรงงาน Pathfinder ได้รับการรับรอง ISCC PLUS จากหน่วยงาน International Sustainability and Carbon Certification (ISCC) ระบบการรับรองนี้จะช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับวัตถุดิบที่ผลิตอย่างยั่งยืนได้ตั้งแต่จุดกำเนิดไปจนถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด
การเป็นพันธมิตรอย่างเป็นเอกภาพและการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานระหว่าง Infinium และ Borealis ได้เป็นตัวอย่างของการที่นักนวัตกรรมสามารถร่วมมือกันสร้างวิธีการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นในด้านระบบหมุนเวียนและการลดฟอสซิล
Robert Schuetzle ซีอีโอของ Infinium กล่าวว่า — “หลายคนไม่ทราบว่าผลิตภัณฑ์พลาสติกจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนที่เราใช้กันทุกวันนี้มีส่วนประกอบที่มาจากฟอสซิล” “ด้วยวัสดุ eNaphtha ของ Infinium จะช่วยให้ Borealis สามารถผลิตพลาสติกที่มีร่องรอยคาร์บอนต่ำเป็นพิเศษ เพื่อตอบความต้องการลูกค้าและผู้บริโภคปลายทางที่กำลังมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”
Mirjam Mayer รองประธานฝ่าย Circular Economy Solutions ของ Borealis กล่าวว่า — “คาร์บอนในชั้นบรรยากาศเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ Borealis Circular Cascade ที่มุ่งส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่การหมุนเวียนพลาสติกและคาร์บอนให้มากยิ่งขึ้น แนวทางนี้จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ พร้อมทั้งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของพวกเขาด้วย” “ความร่วมมือกับ Infinium ในครั้งนี้ ทำให้เห็นว่า คาร์บอนในชั้นบรรยากาศนั้น ถูกดักจับและกักเก็บไว้ในผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิผลตลอดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์นั้น โดยสามารถนำไปสร้างเป็นชิ้นส่วนในงานก่อสร้างแบบหมุนเวียนสำหรับอนาคตได้ นี่ก็คือหนทางหนึ่งที่ Borealis กำลังสร้างสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืน”
ที่มา: Infinium