ส.อ.ท. เปิดตัวเลขประวัติศาสตร์ ยอดผลิตรถยนต์เมษายน 2568 ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน แต่ “รถยนต์ไฟฟ้า” พุ่งทะยานแซงหน้า ทั้งผลิต-ขาย-ส่งออกครั้งแรก

กรุงเทพมหานคร, 22 พฤษภาคม 2568 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ร่วมเปิดเผยสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยประจำเดือนเมษายน 2568 พบว่า ยอดผลิตรถยนต์โดยรวมลดลงเล็กน้อย 0.40% อยู่ที่ 104,250 คัน ซึ่งถือเป็นยอดผลิตที่ต่ำสุดในรอบ 44 เดือน อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากลับเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านการผลิต ยอดขาย และการส่งออกที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

ภาพรวมการผลิตรถยนต์: สัญญาณผสมที่น่าจับตา

แม้ว่ายอดผลิตรถยนต์รวมจะลดลงเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2568 ยอดผลิตกลับลดลงถึง 19.75% สาเหตุหลักมาจากการผลิตรถยนต์นั่งสันดาปภายในที่ลดลงถึง 33.60% เนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์บางรุ่น และการผลิตรถกระบะที่ยังคงลดลง 3.06% สอดคล้องกับยอดขายในประเทศที่ลดลง 22.25%

ในทางกลับกัน การผลิตรถยนต์นั่งและรถ SUV ไฟฟ้าประเภท BEV (Battery Electric Vehicle), PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) และ HEV (Hybrid Electric Vehicle) กลับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 639.75%, 319.11% และ 35.31% ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของอุตสาหกรรมที่หันมาให้ความสำคัญกับยานยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น

สำหรับยอดผลิตรถยนต์สะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม – เมษายน) อยู่ที่ 456,749 คัน ลดลง 11.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยรถยนต์นั่งมีสัดส่วน 35.01% ของยอดผลิตทั้งหมด และลดลง 17.26% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้า BEV และ PHEV ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 327.92% และ 333.84% ตามลำดับ

ยอดขายในประเทศ: รถยนต์ไฟฟ้าพยุงตลาด

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศในเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ 47,193 คัน แม้จะลดลงจากเดือนมีนาคม 2568 ถึง 15.42% แต่กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.97% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2567 การเพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายรถยนต์นั่งไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รถกระบะและรถ PPV ยังคงมียอดขายลดลง 21.7% และ 20.5% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากหนี้ครัวเรือนที่สูงและเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอ

สิ่งที่น่าจับตาคือ รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) มียอดขายสูงถึง 10,901 คัน เพิ่มขึ้น 179.51% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และคิดเป็น 23.10% ของยอดขายทั้งหมด ในขณะที่ รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) ก็เติบโตอย่างน่าประทับใจถึง 720.45%

สำหรับยอดขายรถยนต์สะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 200,386 คัน ลดลง 4.80% จากปีก่อนหน้า แต่ยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การส่งออก: รถยนต์ไฟฟ้า BEV ทะยานสู่ตลาดโลกเป็นครั้งแรก

ในเดือนเมษายน 2568 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 65,730 คัน ลดลง 6.31% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนรุ่นรถยนต์นั่งบางรุ่น และความเข้มงวดด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยและการปล่อยคาร์บอนในบางประเทศคู่ค้า

จุดสำคัญที่สุดคือ การส่งออกรถยนต์นั่ง BEV จำนวน 660 คัน ซึ่งถือเป็นการส่งออกครั้งแรกในเดือนเมษายน 2568 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการส่งออกในอนาคต แม้ว่ามูลค่าการส่งออกรถยนต์โดยรวมในเดือนเมษายน 2568 จะลดลง 4.39% อยู่ที่ 46,031.33 ล้านบาท

ยอดส่งออกรถยนต์สะสมในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 290,288 คัน ลดลง 14.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่: ตลาด BEV ยังคงร้อนแรง

ข้อมูลการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงในเดือนเมษายน 2568 แสดงให้เห็นถึงความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV (รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 100%) ที่จดทะเบียนใหม่รวม 8,029 คัน เพิ่มขึ้น 32.91% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ ถึง 6,264 คัน และรถจักรยานยนต์ 1,704 คัน

สำหรับการจดทะเบียนสะสมของยานยนต์ไฟฟ้า BEV ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2568 มีจำนวน 40,020 คัน เพิ่มขึ้น 11.93% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ในส่วนของ ยานยนต์ไฟฟ้าประเภท HEV (Hybrid Electric Vehicle) มียอดจดทะเบียนใหม่ 10,476 คัน เพิ่มขึ้น 0.60% ในเดือนเมษายน 2568 และ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) มียอดจดทะเบียนใหม่ 3,288 คัน ซึ่งพุ่งสูงขึ้นถึง 414.55% แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของยานยนต์ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ

สรุปสถานการณ์รวม: อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังเปลี่ยนผ่าน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ และนายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ชี้ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ แม้ว่ายอดผลิตและยอดส่งออกรถยนต์สันดาปภายในบางประเภทจะลดลง แต่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งในด้านการผลิต ยอดขาย และการส่งออกครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ชัดเจนของอนาคตยานยนต์ไทยที่กำลังมุ่งสู่พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีขั้นสูง

ที่มา : https://www.fti.or.th/News/details?id=724

About pawarit

Check Also

Elektrobit และ Foxconn จับมือพัฒนา EV.OS แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ AI สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต

Elektrobit บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ยานยนต์ชั้นนำ ได้ลงนามในข้อตกลงพัฒนาร่วมกับ Hon Hai Technology Group (Foxconn) ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อร่วมกันพัฒนา EV.OS แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ยืดหยุ่นและขับเคลื่อนด้วย AI ออกแบบมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วสู่ ยานยนต์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ …

Advantech เปิดวิสัยทัศน์ “Edge Computing & WISE-Edge in Action” ปูทางสู่ระบบนิเวศอุตสาหกรรมอัจฉริยะในอาเซียน

โดย Sou Wei Tan – Regional Solution Manager ของ Advantech ASEAN เมื่อวันที่ 19-20 มิถุนายน 2568 …