GWM โชว์วิสัยทัศน์ AI เพื่อรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติใน Automotive Summit 2025 ชูเทคโนโลยี SEE และ ASL ยกระดับความปลอดภัยและประสบการณ์ผู้ใช้

GWM (ประเทศไทย) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการนำเสนอแนวคิด “All Scenarios, All Powertrains, for All Users” ในงาน Automotive Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “AI4AI: Artificial Intelligence Driving Automotive to the Future”

บทบาทของ AI ในการขับขี่อัตโนมัติและความท้าทาย

คุณ Wayne Zhou กรรมการผู้จัดการ GWM (ประเทศไทย) ได้นำเสนอหัวข้อ “AI in Autonomous Driving – How AI work in ADAS/Autonomous Vehicle” โดยเน้นย้ำถึงการประยุกต์ใช้ AI เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) และระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Vehicle) ในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือของการออกแบบระบบ, มาตรฐานความปลอดภัยสากล, และความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบเพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบในอนาคต

นวัตกรรม AI ของ GWM: SEE และ ASL

GWM มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะ โดยได้พัฒนาจากสถาปัตยกรรมแบบ “Modular End-to-End Architecture” ที่แยกส่วนการทำงาน ไปสู่แนวคิด “Full End-to-End” ที่รวมทุกกระบวนการเข้าไว้ในโมเดล AI เดียว

  • โมเดล SEE (Safety, Efficiency, Experience): GWM ได้พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ SEE ซึ่งเป็นการรวมข้อดีของทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน โดยสามารถรับรู้ วิเคราะห์ และควบคุมได้อย่างแม่นยำในฐานะหน่วยเดียวที่บูรณาการ แต่ยังคงอนุญาตให้มนุษย์เข้ามาแทรกแซงในสถานการณ์เฉพาะเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ระบบ SEE ถูกติดตั้งในรถยนต์ MPV เรือธง GWM WEY 80 ในประเทศจีน ทำงานบนแพลตฟอร์ม Coffee Pilot Ultra ผสานรวมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 27 ตัว และชิป NVIDIA Orin-X เพื่อการประมวลผลข้อมูลรอบทิศทางและการตัดสินใจแบบเรียลไทม์
  • โมเดล ASL (Agent of Space & Language): GWM ยังเปิดเผยโมเดล AI ใหม่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาคือ ASL ซึ่งออกแบบมาเพื่อสื่อสารกับผู้ขับขี่โดยตรงด้วยภาษามนุษย์ที่เป็นธรรมชาติ ASL ผสานรวมข้อมูลจากภาพ 3 มิติ, LiDAR และเรดาร์ ทำให้ระบบสามารถเข้าใจบริบทของการเดินทางได้อย่างแม่นยำ และทำหน้าที่เป็นสมองส่วนกลางอัจฉริยะของรถยนต์ที่มีขีดความสามารถในการเรียนรู้ วิเคราะห์ และปรับตัวขั้นสูง

ความท้าทายและข้อเสนอแนะเพื่ออนาคตของ AI ในยานยนต์

แม้จะมีความก้าวหน้า GWM ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายหลัก 3 ประการ:

  1. การรับรู้ของสาธารณชนและการยอมรับทางสังคม: ความเชื่อมั่นและความคุ้นเคยของผู้คนต่อระบบอัตโนมัติยังคงเป็นสิ่งสำคัญ
  2. กรอบกฎหมายและการพิจารณาความรับผิดชอบ: จำเป็นต้องมีแนวทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางกฎหมายของยานยนต์อัตโนมัติ
  3. ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐและอุตสาหกรรม: ภาครัฐและอุตสาหกรรมควรร่วมมือกันในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา, กำหนดกฎหมายที่ชัดเจนและเข้มงวดด้านความปลอดภัย, และลงทุนในการให้ความรู้แก่สาธารณะและการพัฒนาบุคลากร

GWM แสดงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่สร้างประสบการณ์การเดินทางที่อัจฉริยะและเป็นธรรมชาติสำหรับผู้ใช้ในทุกมิติ โดยชี้ให้เห็นว่าปี 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์

ที่มา : https://www.thaipr.net/en/auto_en/3611745

About pawarit

Check Also

AdaCore และ NVIDIA ผนึกกำลัง! เปิดตัวภาษา Ada และ SPARK สู่ตลาดรถยนต์ พร้อมยกระดับความปลอดภัยซอฟต์แวร์

AdaCore ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่มีความสมบูรณ์สูง มีความยินดีที่จะประกาศการนำภาษาโปรแกรม Ada และ SPARK เข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยร่วมกับพันธมิตร NVIDIA พวกเขาเตรียมเผยแพร่กระบวนการอ้างอิงที่พร้อมใช้งาน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้อื่นสามารถนำไปปรับใช้ตามแนวทางของพวกเขาได้

Huawei ก้าวสู่โลกแบตเตอรี่ EV แห่งอนาคต ชาร์จไว 5 นาที วิ่งไกล 3,000 กม.

หัวเว่ยยกระดับความทะเยอทะยานในเทคโนโลยีพลังงานขั้นสูง ด้วยการจดสิทธิบัตรแบตเตอรี่โซลิดสเตตชนิดซัลไฟด์ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 3,000 กิโลเมตร และชาร์จเต็มในเวลาเพียง 5 นาที! นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกำลังรุกเข้าสู่สมรภูมิแบตเตอรี่โซลิดสเตตที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว