HL Robotics เข้าซื้อกิจการ Stanley Robotics เพื่อนำหุ่นยนต์จอดรถกลางแจ้งมาให้บริการเชิงพาณิชย์

HL Robotics บริษัทในเครือของ HL Holdings ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการ “Stanley Robotics” ซึ่งเป็นบริษัทแรกของโลกที่นำหุ่นยนต์จอดรถกลางแจ้งมาใช้ในเชิงพาณิชย์ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2567

Stan หุ่นยนต์ให้บริการจอดรถอัตโนมัติในพื้นที่กลางแจ้งของ Stanley Robotics

การดำเนินการอย่างรวดเร็วของ HL Robotics ได้สร้างความน่าสนใจ และคาดว่า HL Robotics จะสามารถครองตลาดที่มีมูลค่า 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.25 แสนล้านบาท) โดยมีประเด็นสำคัญอยู่ที่ “การทำให้เป็นที่นิยม” แกนหลักอยู่ที่ “เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ” ความท้าทายอยู่ที่ “การขยายตัวทั่วโลก” และ Stanley Robotics เป็นบริษัทหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติที่สามารถตอบสนองเกณฑ์เหล่านี้ได้ทั้งหมด

ในการซื้อกิจการครั้งนี้ HL Robotics มีเป้าหมายที่จะก้าว “เป็นผู้นำในตลาดหุ่นยนต์จอดรถระดับโลก” และเป็นผู้นำการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติระดับโลก โดยวางตำแหน่งให้เป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนการเติบโตรายใหม่ของ HL Group

Stanley Robotics มีความเชี่ยวชาญด้านการนำหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติมาใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยประสบความสำเร็จในการนำหุ่นยนต์จอดรถมาใช้ที่สนามบิน Lyon-Saint-Exupéry ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2561 จากนั้น Stanley Robotics ได้ลงนามในข้อตกลงการสมัครเป็นสมาชิกหุ่นยนต์จอดรถกับบริษัทด้านห่วงโซ่อุปทานสำหรับโลจิสติกส์ยานยนต์ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศแคนาดา โดยเปิดตัวระบบจัดการโลจิสติกส์ยานยนต์ด้วยหุ่นยนต์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 และถือเป็นโมเดลเชิงพาณิชย์รุ่นแรกในอเมริกาเหนือที่มีวิธีดำเนินการได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งการให้บริการงานบำรุงรักษา นอกจากนี้ ยังคาดหวังได้ในระดับสูงสำหรับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมอีก โดยมีลูกค้าที่มีศักยภาพอีกเป็นจำนวนมาก เช่น บริษัทโลจิสติกส์ทางรถไฟและสนามบินทั่วอเมริกาเหนือและยุโรป

ผลิตภัณฑ์เรือธงของ Stanley Robotics อย่าง “Stan” ได้รับความสนใจอย่างมาก โดย Stan เป็นหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติที่สามารถนำทางในลานจอดรถได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาหรือพื้นที่ ทำให้ Stanley Robotics เป็นผู้เล่นหลักในการนำหุ่นยนต์จอดรถมาใช้ในเชิงพาณิชย์

ความสำเร็จนี้มาจากระบบบริหารจัดการขบวนรถ (FMS) โดย FMS ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแฝดดิจิทัล (digital twin) ซึ่งไม่เพียงใช้เฝ้าตรวจสอบ Stan แต่ยังใช้ควบคุมจากระยะไกลในเวลาจริงจากตำแหน่งศูนย์กลางแห่งเดียวอีกด้วย

ส่วนข้อกังวลของตลาดเกี่ยวกับปัญหา “กำลังไฟฟ้าหมด” ที่อาจเกิดขึ้นนั้น ขณะนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว โดยมีการติดดั้ง “ฟังก์ชันการชาร์จอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ” ไว้ในตัวของ Stan

ตลาดหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติยังคงเปิดกว้าง โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าตลาดโลกซึ่งเติบโตในอัตราสองหลักต่อปีจะมีมูลค่าถึง 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2573 การเติบโตนี้ถูกผลักดันมาจากการขาดแคลนพื้นที่ การเติบโตของประชากร และความหนาแน่นของเขตเมืองเพิ่มขึ้นในเมืองใหญ่ต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ HL Group สนใจลงทุนในธุรกิจหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติระดับโลก

นอกจากนี้ HL Group ยังวางแผนที่จะขยายสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจให้กว้างออกไปอีกนอกเหนือจากหุ่นยนต์จอดรถ รวมทั้งการรวบรวมวิธีการทางหุ่นยนต์ให้มีความหลากหลายไปสู่การใช้งานของผู้บริโภคโดยทั่วไป

ที่มา: HL Robotics

About pawarit

Check Also

ซีเมนส์ ทุ่ม 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดโรงงานอุปกรณ์ไฟฟ้าสุดล้ำในเท็กซัส รับยุค AI บูม!

“ซีเมนส์” ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ได้ฤกษ์เปิดตัวโรงงานผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าแห่งใหม่ที่เมืองฟอร์ตเวิร์ธ รัฐเท็กซัส ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โรงงานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะของซีเมนส์ และถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะจากตลาดศูนย์ข้อมูล (Data Center) และการเติบโตของเทคโนโลยี AI ในอเมริกา

โบลท์ (Bolt) จับมือ SLEEK EV สนับสนุนพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ผลักดันในอุตสาหกรรม Ride-Hailing

โบลท์ ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับ SLEEK EV บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในหมู่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่โบลท์ผ่านโครงการเช่าซื้อ (Rent-to-Own Scheme) สนับสนุนการใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยผลักดันการเติบโตของตลาด EV ในประเทศไทย …