บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (Honda Motor Co.) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดเผยว่า กำไร สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม ลดลง 24.5% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการ ยอดขายรถยนต์ในจีนลดลง และบริษัทได้เตือนว่า ภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทให้แย่ลง

Honda รายงานกำไรประจำปีที่ 835,800 ล้านเยน (5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลงจาก 1.1 ล้านล้านเยนในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ยอดขายประจำปีปรับตัวขึ้น 6.2% สู่ระดับเกือบ 21.69 ล้านล้านเยน (147,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) โดยต้นทุนด้านการวิจัยและพัฒนาส่งผลกระทบต่อกำไร แม้ว่า Honda จะมียอดขายรถจักรยานยนต์ทั่วโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์
Noriya Kaihara รองประธานบริหาร ยอมรับว่า ภาษีของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบด้านลบ โดยคาดว่าจะทำให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 650,000 ล้านเยน (4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สำหรับปีงบประมาณที่จะถึงเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2569 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาษีของสหรัฐฯ ที่เก็บจากรถยนต์ที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก
Toshihiro Mibe ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า Honda จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากภาษี โดยในระยะยาว Honda จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์ไปยังโรงงานในสหรัฐฯ และจะทบทวนแผนการลงทุนใหม่ นอกจากนี้ Honda ยังคงยึดมั่นในแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้น
Honda คาดการณ์ว่า กำไร สำหรับปีงบประมาณที่จะถึงเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2569 จะ ลดลงถึง 70% สู่ระดับ 250,000 ล้านเยน (1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากยอดขาย 20.3 ล้านล้านเยน (137,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งลดลง 6%
ประเด็นเพิ่มเติมคือ การที่แผนการรวมธุรกิจระหว่าง Honda และ Nissan Motor Corp. ได้ล่มสลายไปก่อนหน้านี้ โดย Nissan ถอนตัวเนื่องจากมองว่าจะเสียเปรียบ