ตลาดหุ้นไทยปั่นป่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังมีข่าวใหญ่จากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่มคิง เพาเวอร์ ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าปลอดภาษีรายใหญ่ของไทย ได้แจ้งความจำนงขอ ยกเลิกสัญญา สัมปทานการบริหารจัดการร้านค้าปลอดอากรที่ท่าอากาศยานนานาชาติ 5 แห่ง ทั่วประเทศ ได้แก่ สุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, ภูเก็ต และ หาดใหญ่ ทันทีที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ราคาหุ้นของ AOT ก็ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง

เบื้องหลังการตัดสินใจยกเลิกสัญญา
การตัดสินใจของคิง เพาเวอร์ มาจากหลายปัจจัยกดดัน ได้แก่:
- การปรับลดภาษีสรรพสามิตไวน์ของรัฐบาล: ทำให้สินค้าปลอดอากรบางประเภทมีความน่าสนใจน้อยลง
- จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงต่อเนื่อง: โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก
- ผลกระทบจากโควิด-19: การแพร่ระบาดของโรคส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเดินทางทั่วโลก
- ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า: สร้างความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ผลกระทบต่อตลาดหุ้น
ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัด ราคาหุ้น AOT ปิดตลาดช่วงเช้าที่ 28.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 4.20% จากราคาปิดก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากความกังวลของนักลงทุนต่อรายได้ในอนาคตของ AOT
ที่มา : https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/AOT/price
ปัจจุบัน AOT อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อหารือแนวทางกับ KPD (คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด) รวมถึงการดำเนินการจัดจ้างที่ปรึกษาที่เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ทางเลือกที่เป็นไปได้ในการประกอบการจำหน่ายวินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานของ AOT พร้อมทั้งเสนอแนะทางเลือกที่ได้จากผลการศึกษาและวิเคราะห์ที่เหมาะสมที่สุดในการดำเนินการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ AOT และเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ KPD (คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ ฟรี จำกัด) ยังคงประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานของ AOT ตามปกติ
