ชุดควบคุมการส่งกำลัง (transmission control unit) ของรถจักรยานยนต์ คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 309.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปี พ.ศ. 2566 ถึง 2570 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 32.4% ตามข้อมูลของ Technavio ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก

ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดภาวะเติบโต คือ มีการเดินทางไกลด้วยรถจักรยานยนต์มากขึ้น อันเนื่องมาจากกลุ่มจักรยานยนต์ท่องเที่ยว (motorcycle touring groups) มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลก นั่นคือ อุปสงค์รถจักรยานยนต์กลุ่มท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยระบบเกียร์ของจักรยานยนต์กลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นระบบเกียร์แบบอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มีสภาพการใช้งานหนัก โดยคาดว่าจะมีจำนวนการใช้เกียร์อัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงคาดการณ์ดังกล่าว
ภาพรวม
Technavio แบ่งกลุ่มตลาดชุดควบคุมการส่งกำลังของรถจักรยานยนต์เป็นสองแบบ คือ ลักษณะการใช้ควบคุม (เช่น การส่งกำลังแบบเกียร์คลัตช์เดี่ยว และแบบเกียร์คลัตช์คู่) และกลุ่มผู้ใช้ปลายสุด (end user) (เช่น ใช้จักรยานยนต์ ระดับกลาง-พรีเมียม, ใช้เดินทางไป-กลับเป็นประจำ, และระดับพรีเมียม)
ในกลุ่มเกียร์คลัตช์เดี่ยว (single-clutch transmission) ถือว่ามีความสำคัญต่อการเติบโตของตลาดในช่วงเวลาคาดการณ์ เนื่องจากมอเตอร์ไซค์เหล่านี้มักจะติดตั้งคลัตช์แบบแรงเหวี่ยง (centrifugal clutches) ทำให้ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องดึงคันคลัตช์เพื่อเปลี่ยนเกียร์ ระบบส่งกำลังแบบนี้จึงถูกเรียกอีกอย่างว่า ระบบส่งกำลังแบบไม่ใช้คลัตช์ ระบบเหล่านี้จะมีการแทนที่คันเปลี่ยนเกียร์ด้วยเท้าแบบเดิม มาเป็นแบบสวิตช์ที่ติดตั้งอยู่บนแฮนด์จับ ด้วยความสามารถของสวิตช์เหล่านี้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้สะดวก และเป็นไปอย่างราบรื่น
ภาพรวมทางภูมิศาสตร์
ในทางภูมิศาสตร์ ชุดควบคุมการส่งกำลังของรถจักรยานยนต์ทั่วโลกได้แบ่งพื้นที่การตลาดออกเป็น ยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริกา และอเมริกาใต้ ซึ่งในรายงานนี้ได้ประเมินการมีส่วนร่วมจากทุกภูมิภาคที่มีต่อการเติบโตของชุดควบคุมการส่งกำลังของรถจักรยานยนต์ทั่วโลก
สำหรับในยุโรป จากมาตรฐานการปล่อยไอเสียของยุโรป Euro 5 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับ 5 ตามข้อบังคับสำหรับรถสองล้อ มีจุดประสงค์หลักเพื่อลดมลพิษทางอากาศจากรถสองล้อ ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับดังกล่าว ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่จึงมุ่งไปที่การพัฒนายานยนต์ขั้นสูงด้วยการใช้ส่วนประกอบขั้นสูงต่างๆ เช่น TCU (Telematic Control Unit) ซึ่งเป็นระบบฝังตัวในชุดแผงวงจรที่ใช้สำหรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายระหว่างยานยนต์กับส่วนบริการบนคลาวด์ หรือกับยานยนต์อื่น ผ่านทางมาตรฐาน V2x บนเครือข่ายเซลลูลาร์
การใช้ส่วนประกอบอย่าง TCU เป็นความต้องการที่สูงขึ้นและเป็นตามข้อบังคับที่เข้มงวดของ Euro 5 จึงคาดว่า TCU จะถูกใช้แพร่หลายมากขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตรถจักรยานยนต์ นั่นคือ ช่วยผลักดันการเติบโต TCU ของรถจักรยานยนต์ในยุโรป และตลาดโลกในช่วงที่คาดการณ์ได้ 36%
แนวโน้มสำคัญ
- TCU ถูกนำไปใช้ในรถจักรยานยนต์เพื่อความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญ
- ผู้ผลิตรถยนต์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อทำให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้น เป็นที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ยุคสหัสวรรษ (millennial drivers)
- BMW AG นำเสนอ ระบบ R1200RS ConnectedRide ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยสำหรับจักรยานยนต์ โดยนำมาติดตั้งเข้ากับระบบต่างๆ ที่ออกแบบไว้เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ระหว่างกันและกัน
- ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สำหรับการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น สิ่งนี้จะช่วยผลักดันการใช้ TCU ไปทั่วโลก
อุปสรรคที่ท้าทาย
- ความซับซ้อนมากขึ้นของ TCU ที่ใช้ในรถจักรยานยนต์ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโต
- ระบบการส่งกำลังแบบอัตโนมัติและกึ่งอัตโนมัติ ถูกสร้างขึ้นด้วยส่วนประกอบมากมาย และทั้งหมดนั้นเป็นส่วนประกอบขั้นสูงที่เข้ามาเพิ่มความแปลกซับซ้อนให้กับยานยนต์ และสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ปลายสุด
- เป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์แรกเริ่ม (OEM) ที่ต้องรวมเอาส่วนประกอบต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างให้เป็นระบบทำงานได้
- นอกจากนี้ ศูนย์บริการและงานซ่อม ยังต้องการช่างที่มีทักษะสูงในการทำงานและแก้ปัญหาระบบส่งกำลังขั้นสูงเหล่านี้ จึงทำให้ระบบโดยรวมมีความซับซ้อนสูง และเป็นอุปสรรคที่ท้าทายต่อการเติบโต
ที่มา: Technavio