
Nike แบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ เตรียมปรับโครงสร้างการผลิตและจัดหาวัตถุดิบเพื่อรับมือกับมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐอเมริกา โดยมีแผนจะลดการพึ่งพาฐานการผลิตในประเทศจีนสำหรับสินค้าที่นำเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ
Matthew Friend ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของ Nike เปิดเผยว่า มาตรการภาษีใหม่นี้ถือเป็น “ต้นทุนใหม่ที่มีนัยสำคัญ” โดยปัจจุบัน Nike เป็นผู้เสียภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในอัตราสูงอยู่แล้ว โดยเฉพาะรองเท้าที่มีอัตราภาษีเฉลี่ยประมาณ 15%
เพื่อบรรเทาผลกระทบ Nike จะปรับปรุงสัดส่วนการจัดหาวัตถุดิบและกระจายการผลิตไปยังประเทศอื่น ๆ แม้ว่ากำลังการผลิตในจีนยังคงมีความสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของ Nike ก็ตาม ปัจจุบันจีนคิดเป็นประมาณ 16% ของรองเท้าที่ Nike นำเข้าสหรัฐฯ และคาดว่าจะลดลงเหลือเพียงตัวเลขหลักเดียวภายในปลายปีงบประมาณ 2569
นอกจากนี้ Nike จะทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์และพันธมิตรค้าปลีกเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริโภค พร้อมกับการปรับขึ้นราคาในสหรัฐฯ อย่างจำกัด ซึ่งจะเริ่มทยอยใช้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ Nike ประเมินว่าอัตราภาษีใหม่จะทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยบริษัทจะพิจารณาการลดต้นทุนองค์กรตามความเหมาะสม แต่ยังคงมุ่งเน้นการสร้างกระแสความนิยมของแบรนด์และการรักษาเสถียรภาพทางธุรกิจเป็นหลัก
การประกาศของ Nike มีขึ้นหลังจากที่ Adidas คู่แข่งสำคัญ ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่ามาตรการภาษีของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์อาจนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้าบางประเภทในสหรัฐฯ