Nissan Motor Corp. เปิดเผยผลประกอบการ ขาดทุน สำหรับปีงบประมาณล่าสุด ท่ามกลางยอดขายรถยนต์ที่ลดลงในจีนและประเทศอื่นๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างองค์กรที่สูง ส่งผลให้บริษัทประกาศ ลดจำนวนพนักงานทั่วโลกประมาณ 15% หรือราว 20,000 คน และ ลดจำนวนโรงงานผลิตรถยนต์จาก 17 แห่ง เหลือเพียง 10 แห่ง ภายใต้แผนฟื้นฟูที่เรียกว่า “การดำเนินการที่เด็ดขาดและกล้าหาญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างธุรกิจที่คล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น” โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2571 และรวมถึงการปิดโรงงานในญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้ Nissan ยังได้ยกเลิกแผนการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในญี่ปุ่น

Ivan Espinosa ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nissan กล่าวว่า บริษัทมี “ภูเขาที่ต้องปีน” และภารกิจนี้ต้องอาศัยวินัยและการทำงานเป็นทีม เพื่อสร้างอนาคตให้กับ Nissan
สำหรับปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม Nissan ขาดทุน 670,900 ล้านเยน (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลดลงจากกำไร 426,600 ล้านเยนในปีก่อนหน้า และในไตรมาสล่าสุด ขาดทุนสุทธิ 676,000 ล้านเยน (4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แผนฟื้นฟูยังรวมถึงการพยายามลดต้นทุน 500,000 ล้านเยน (3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) เมื่อเทียบกับต้นทุนปัจจุบัน
Espinosa กล่าวว่า ผู้บริหารชุดใหม่กำลังใช้แนวทางที่รอบคอบในการประเมินเป้าหมายใหม่ และมุ่งมั่นที่จะกลับมาทำกำไรได้ภายในปีงบประมาณ 2569 อย่างไรก็ตาม นาย Jeremie Papin ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nissan ยอมรับว่าบริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ร้ายแรง และ Nissan ยังไม่ได้ให้ประมาณการกำไรสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2570 โดยอ้างถึงความไม่แน่นอน
Nissan ระบุว่า ภาษีนำเข้ารถยนต์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทเช่นกัน บริษัทจะใช้ประโยชน์จากความร่วมมือต่าง ๆ เช่น กับ Renault SA ในยุโรป และ Dongfeng Nissan ในจีน เพื่อปรับการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการและวางกลยุทธ์ด้านตลาดและผลิตภัณฑ์
ที่มา : https://www.manufacturing.net/operations/news/22940998/nissan-closing-7-plants-slashing-20000-jobs