
เมื่อการเกษตรกรรมนั้นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจัยในการทำการเกษตรประกอบด้วย ดิน น้ำ แรงงาน เทคโนโลยี การบริหารจัดการ การตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์อารักขาพืช (เคมีเกษตร) อย่างเช่น สารกำจัดแมลง, สารกำจัดวัชพืช, สารป้องกันกำจัดโรคพืช, ปุ๋ย, ฮอร์โมน, ธาตุอาหารเสริม ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการทำการเกษตร และมีความสำคัญในฐานะเบื้องหลังของความสำเร็จของเกษตรกรทั่วไทย
อย่างไรก็ดี ธุรกิจด้านเคมีเกษตรเองก็มีความซับซ้อนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความผันผวนของธุรกิจที่อ้างอิงกับอุตสาหกรรมการเกษตร, สภาพดินฟ้าอากาศ, การเปิดตัวสารเคมีใหม่ๆ จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง, การวิจัยพัฒนาชนิดและความเข้มข้นสูตรเคมีของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกและสภาพภูมิอากาศในไทย, การบริหารจัดการสินค้าจำนวนมหาศาล ไปจนถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลเกษตรกรและการเพาะปลูกเพื่อใช้วิเคราะห์เชิงธุรกิจให้ได้อย่างต่อเนื่อง
คุณจิรัฐ ประเทืองวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซตัส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะมาเล่าถึงความท้าทายของวงการเคมีเกษตร และวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการจะขับเคลื่อนภาคการเกษตรสู่ Data-Driven Business ให้ได้อย่างเต็มตัว ด้วยการใช้ GROW with SAP เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่มีความซับซ้อนสูงให้สำเร็จ
Sotus International ผู้นำธุรกิจเคมีเกษตร เบื้องหลังความสำเร็จของเกษตรกรไทย ที่มีงานวิจัยเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ
คุณจิรัฐได้เริ่มบทสนทนาครั้งนี้ด้วยการอธิบายถึงภาพรวมธุรกิจของ Sotus International ที่ทำธุรกิจในหมวดหมู่ซึ่งอาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยของหลายๆ คนมากนักอย่างธุรกิจเคมีเกษตร

ธุรกิจหลักของ Sotus International นั้นคือการผลิต นำเข้า แบ่งบรรจุ และจัดจำหน่ายสินค้าเคมีเกษตรซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญของเกษตรกรในการดูแลพืชและการเพิ่มคุณภาพผลผลิต ไม่ว่าจะเป็นในไม้ผล ข้าว, พืชไร่, พืชสวน, ผัก หรือไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งโดยรวมแล้ว สินค้าของ Sotus International จะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่หลักๆ ด้วยกัน ได้แก่
- สารกำจัดแมลง
- สารกำจัดวัชพืช
- สารป้องกันกำจัดโรคพืช
- ปุ๋ย, ฮอร์โมน, ธาตุอาหารเสริม
อย่างไรก็ดี การทำธุรกิจนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเข้าสารเคมีเข้ามาจัดจำหน่ายเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถตอบโจทย์เกษตรกรไทยได้อย่างแท้จริงนั้นก็คือ “งานวิจัย”
คุณจิรัฐระบุว่าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แต่ละรายการขึ้นมาจัดจำหน่ายได้นั้น ทีมงานของ Sotus International ต้องทำการวิจัยอย่างเข้มข้น เพื่อพัฒนาสูตรของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดและสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย พร้อมทั้งยังต้องมีการทดสอบประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความเป็นพิษตกค้าง เพื่อนำไปขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับกรมวิชาการเกษตรก่อนที่จะจัดจำหน่าย
ความท้าทายของการวิจัยนี้ในมุมของ Sotus International คือการที่ทั่วโลกจะมีผู้ผลิตสารเคมีใหม่ๆ ที่เป็นสารตั้งต้นสำหรับนำมาใช้พัฒนาสูตรเพียงไม่กี่ราย และ Sotus International เองก็ต้องนำสารเหล่านี้มาทำการศึกษา ทดสอบ คัดเลือก และผลิตสูตรที่เหมาะสมกับภาคการเกษตรในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี จนเมื่อได้สูตรออกมาแล้วก็ต้องกำหนดทิศทางของตลาด และวางแผนการสั่งซื้อสารเพื่อทำการผลิตและจัดจำหน่ายให้เหมาะสม รวมถึงมีการให้ความรู้แก่เกษตรกรเพื่อให้สามารถอัปเดตต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่องโรคพืชหรือศัตรูพืช พร้อมแนวทางในการป้องกันรับมือก็ตาม


ปัจจุบัน Sotus International มีลูกค้าส่วนมากเป็นเกษตรกรไทย หลายผลิตภัณฑ์ของ Sotus International ที่นำเข้ามา ผลิตและจำหน่ายในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย จึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้ โดย Sotus International มีสินค้าด้านเคมีเกษตรมากกว่า 140 รายการ ที่ได้พัฒนาและจัดจำหน่าย ณ ปัจจุบัน
นอกเหนือไปจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้ว Sotus International ยังมี บริษัท GAP Industries ที่เป็นฐานการผลิตและคลังสินค้าให้กับบริษัท โซตัสฯ และมีบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องและเป็นการต่อยอดธุรกิจ เช่น Origin Platinum บริษัทให้คำปรึกษาแนะนำวางแผนบริการป้องกันกำจัดแมลงและสัตว์พาหะนำโรค สำหรับที่อยู่อาศัย, ร้านอาหาร, ภัตตาคาร, โรงงานอุตสาหกรรม, โรงพยาบาล, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน, สถานที่ราชการ ทำให้การดำเนินงานของ Sotus International
มีหลากหลายแง่มุมและครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายด้าน
ผู้ที่สนใจสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sotus International ได้ที่ https://www.sotus.co.th/site/
ใช้ SAP มา 15 ปี เป็นบริษัทแรกในธุรกิจเคมีเกษตรไทยที่ใช้ ERP

จะเห็นได้ว่าธุรกิจของ Sotus International นั้นมีความหลากหลาย และต้องมีการออกแบบกระบวนการทำงานและการบันทึกข้อมูลของธุรกิจที่เข้มข้นเพื่อให้รองรับต่อการทำงานของภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม
คุณจิรัฐเล่าว่า Sotus International เดิมทีในช่วงแรกเริ่มก็มีการใช้งานเพียงซอฟต์แวร์บัญชีในการบริหารธุรกิจ แต่ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วจนยอดขายแตะหลักพันล้านบาทตั้งแต่เมื่อ 15-16 ปีก่อน บริษัทก็ต้องพิจารณาถึงระบบบริหารจัดการธุรกิจใหม่ที่มีความสามารถมากขึ้น รองรับกระบวนการการทำงานที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น และเก็บรวบรวมข้อมูลทางธุรกิจได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ด้วยเป้าหมายที่จะเติบโตไปถึงยอด 2,000 ล้านบาทให้ได้ตั้งแต่ช่วงเวลานั้น Sotus International จึงตัดสินใจไม่ยากนักในการเริ่มต้นใช้งานระบบ ERP ระดับองค์กรทันที และได้เชิญทั้ง SAP, Oracle, Microsoft รวมถึงผู้พัฒนาระบบ ERP รายอื่นๆ มานำเสนอ ซึ่งสุดท้าย Sotus International ก็ตัดสินใจใช้ SAP ที่สามารถรองรับรูปแบบการทำงานที่ซับซ้อนและเหมาะสมกับการทำงานของบริษัทได้ และกลายเป็นบริษัทแรกในธุรกิจเคมีเกษตรที่ใช้ SAP ในประเทศไทย
ต่อยอดสู่วิสัยทัศน์แห่งอนาคต ตอบโจทย์ Data-Driven อย่างครบวงจร ด้วยการอัปเกรดระบบสู่ GROW with SAP

เวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบันหลังจากที่ใช้ระบบ ERP เดิมจาก SAP มาเป็นเวลากว่าสิบปี Sotus International ก็ได้ตัดสินใจอัปเกรดมาใช้ GROW with SAP ซึ่งเป็นโซลูชันสำหรับการอัปเกรดจากระบบ SAP เดิมขึ้นสู่ SAP S/4HANA Cloud Public Edition พร้อมบริการการโอนย้ายข้อมูลกระบวนการภายในระบบขึ้นมาสู่การทำงานรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตอบโจทย์การทำ Real-Time Business Analytics ได้ภายในระบบ ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานของ Sotus International ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจในแบบ Data-Driven ได้เป็นอย่างดี
ความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลธุรกิจได้หลากหลายของ GROW with SAP นี้ ยังช่วยให้วิสัยทัศน์ที่ผู้บริหารของ Sotus International ต้องการบรรลุให้ได้นั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารการผลิตและการขายในแบบ Real-Time ที่สามารถระบุถึงคอขวดของการดำเนินการและการแนะนำแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ รวมถึงการทำการจัดเก็บข้อมูลของพันธมิตรที่เป็นช่องทางการขาย ไปจนถึงลูกค้าเกษตรกรผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ตัวจริง เพื่อให้ Sotus International สามารถทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น สื่อสารได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และเป็นข้อมูลพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้ในระยะยาว
ในการอัปเกรดครั้งนี้ Sotus International ยังได้ถือโอกาสในการใช้ GROW with SAP เพื่อบริหารจัดการ Warehouse ของธุรกิจควบคู่ไปด้วย จากเดิมที่เคยต้องมีระบบสำหรับบริหารจัดการคลังสินค้าแยกและทำการเชื่อมข้อมูลเข้ากับ SAP ซึ่งการผสานรวมข้อมูลหลายๆ ระบบเข้าไปใน SAP ด้วยกันนี้ ก็จะทำให้การดำเนินงานของ Sotus International มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
คุณจิรัฐเล่าถึงมุมมองของบริษัทว่าทุกวันนี้ธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และการขับเคลื่อนก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในบริษัทเท่านั้น แม้แต่เกษตรกรไทยเองทุกคนก็พร้อมจะเรียนรู้ ทุกคนมีโทรศัพท์มือถือ เข้าถึงข้อมูลได้ และเกษตรกรรุ่นใหม่ๆ เองก็พร้อมที่จะเปิดรับการเกษตรแนวใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีมากขึ้น Sotus International จึงมีเป้าหมายที่จะผลักดันทั้งวงการให้ขับเคลื่อนด้วย Data ไปด้วยกัน
ร่วมงานกับ NTT DATA Business Solutions (NDBS Thailand) ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจมาอย่างยาวนาน วางใจในความเป็นมืออาชีพ พร้อมเติบโตร่วมกันในระยะยาว

Sotus International ใช้บริการด้าน SAP Implementer จากทาง NTT DATA Business Solutions (NDBS Thailand) มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อ ISS Consulting มาก่อน ตั้งแต่การขึ้นระบบ SAP ชุดแรก จนถึงการอัปเกรดมาสู่ GROW with SAP เป็นหลักฐานถึงความไว้วางใจที่มีให้กับ NDBS Thailand เป็นอย่างดีจนเป็นลูกค้ากันมายาวนานเกินกว่าสิบปี
การตัดสินใจใช้ SAP จากทาง NDBS Thailand เกิดขึ้นจากการประเมินเลือกใช้โซลูชันตั้งแต่ครั้งแรก ที่ถึงแม้ในช่วงแรกเริ่มนั้นโซลูชันของ SAP ในสมัยก่อนที่เป็น On-Premises จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่เมื่อได้พูดคุยทำความเข้าใจกับทีมงานของ NDBS Thailand ทางทีมได้ให้ความช่วยเหลือและปรับเปลี่ยนบริการจนสามารถเริ่มดำเนินโครงการกันได้ในงบประมาณที่เหมาะสม
ที่ผ่านมาคุณจิรัฐได้แนะนำให้เพื่อนๆ เจ้าของกิจการด้วยกันใช้บริการ SAP จาก NDBS Thailand มาโดยตลอด เพราะจากประสบการณ์ของบริษัท การทำงานร่วมกับ NDBS Thailand นั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่น เมื่อมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นก็มีการพูดคุยแก้ไขปัญหาร่วมกันจนได้ผลลัพธ์ที่ดี เรียกได้ว่าทำงานร่วมกันในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจอย่างยาวนานจนทำงานเข้ามือกัน และ NDBS Thailand ก็ยังคอยช่วยดูแลรักษาระบบ SAP มาอย่างต่อเนื่อง

“วัฒนธรรมของเราคือเราอยากทำงานร่วมกับ Vendor เพียงน้อยราย แต่ทำงานด้วยกันนานๆ เพราะเราอยากเติบโตไปพร้อมกับ Partner ที่เข้าใจกัน และ NDBS Thailand ก็ตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้ดี” คุณจิรัฐสรุปถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Sotus International และ NDBS Thailand ที่ทั้งคู่มีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน
AI กับบทบาทสำคัญในการผลักดันการเกษตรไทย
คุณจิรัฐได้เล่าถึงแนวโน้มที่จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเกษตรไทยอย่าง AI ที่จะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในการดูแลพืชผลทางการเกษตรนั้น ก็เปรียบเสมือนการที่เกษตรกรจะต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษาโรค เช่นเดียวกับกรณีของโรคพืช การจัดการกับศัตรูพืช ซึ่งก็ต้องมีการวินิจฉัย การตรวจสอบในห้องแล็บ การใช้ยาเพื่อป้องกันหรือรักษา การให้อาหารเสริมให้กับพืช
โจทย์ดังกล่าวนี้ล้วนอยู่ในขอบข่ายที่ AI สามารถเข้ามาช่วยจัดการได้ ซึ่งนอกจาก AI จะช่วยตรวจสอบโรคพืชหรือศัตรูพืชพร้อมให้คำแนะนำในการจัดการได้แล้ว AI ก็ยังเป็นแหล่งข้อมูลที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถเรียนรู้แนวทางและเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งการประยุกต์ใช้ AI เพื่อผสานเข้ากับข้อมูลธุรกิจของ Sotus International ให้มีองค์ความรู้เฉพาะทางด้านการเกษตร และกลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับเกษตรกรไทยที่จะเข้าถึงข้อมูลในส่วนนี้ได้ในอนาคต ก็เป็นอีกวิสัยทัศน์หนึ่งที่ผู้บริหารมองว่าเป็นแนวทางที่เป็นไปได้
ธุรกิจจะยืนหยัดได้อย่างมั่นคง ต้องชัดเจนใน Core Value ของธุรกิจ

คุณจิรัฐได้ทิ้งท้ายถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ Sotus International เติบโตมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน มียอดขายหลักหลายพันล้านบาทต่อปี ซึ่งก็คือความชัดเจนใน Core Value ของธุรกิจเพื่อสร้างฐานลูกค้าที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ของธุรกิจนั่นเอง
ในมุมของ Sotus International นั้นก็ได้ตอกย้ำถึงแนวคิดนี้ ด้วยการพัฒนาธุรกิจให้เหนือไปกว่าเพียงแค่การขายผลิตภัณฑ์ แต่ยังทำไปจนถึงระดับของโซลูชันด้วยการผสานบริการด้านการให้คำแนะนำ การช่วยเหลือ และต่อยอดเรื่องการมองหาตลาดใหม่ๆ ในการขายพืชผลการเกษตรให้กับลูกค้าของตนเอง และหาพันธมิตรธุรกิจรายใหม่ๆ มาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
แนวทางดังกล่าวนี้ทำให้ Sotus International กลายเป็นเพื่อนที่ไว้วางใจได้ของเหล่าเกษตรกร และไม่ต้องตกอยู่ในสงครามราคา
“ทุกวันนี้คู่แข่งของ Sotus International มีแต่ธุรกิจรายใหญ่ระดับโลก ทำให้เราต้องถีบตัวเองให้แข่งขันในตลาดระดับโลกที่รุนแรงได้ การให้ความสำคัญกับ Core Value ของเราช่วยให้เราไม่ต้องแข่งขันเรื่องราคากับคู่แข่ง แต่ทำให้เราต้องขยันทำในสิ่งที่เราทำได้ดี” คุณจิรัฐสรุปถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่หนักแน่นของ Sotus International
เกี่ยวกับ NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd.

บริษัท NTT DATA Business Solutions (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษา และบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution
และ IT Solution อื่นๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ สำหรับธุรกิจที่ต้องการปรึกษาด้านโซลูชั่น SAP เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรให้ดีขึ้น
สนใจ GROW with SAP ติดต่อ NDBS Thailand ได้ทันที
สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชัน GROW with SAP หรือโซลูชันใดๆ ของ SAP สามารถติดต่อทีมงาน NDBS Thailand ได้ทันทีที่ 02-2370553-58 หรือติดตาม ได้ที่ email: marketing–solutions–[email protected] หรือ www.nttdata–solutions.com