TFM รายงานกำไรครึ่งปีแรก 233 ล้านบาท โต 1,064 เปอร์เซ็นต์ สูงสุดตั้งแต่ IPO พร้อมประกาศจ่ายปันผลรอบครึ่งปี ตอกย้ำกระแสเงินสดแกร่ง

กรุงเทพฯ – 2 สิงหาคม 2567 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย รายงานผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิ สูงถึง 233 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 1,064.1 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 17.5 เปอร์เซ็นต์ โชว์ผลงานแกร่งสุดในรอบ 3 ปี

พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ถือเป็นการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสูงสุดที่ได้มีการประกาศจ่ายตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตอกย้ำผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง  

นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในครึ่งแรกของปี 2567 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจเพราะมีอัตราการเติบโตที่ดีและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย TFM ยังคงเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® 2030 ของกลุ่มไทยยูเนี่ยน โดยบริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 2,545.8 ล้านบาท และมีความสามารถในการทำกำไรที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 444.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 161.3 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิอยู่ที่ 233.4 เพิ่มขึ้นกว่า 1,064.1 เปอร์เซ็น จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุนการผลิตในโรงงานและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมไปถึงผลการดำเนินธุรกิจของ TFM ในประเทศอินโดนีเซียที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก ตลอดจนการปรับกลยุทธ์การขายและพอร์ตสินค้าของบริษัทฯ ส่งผลให้อัตรากำไรต่อหุ้นปรับเพิ่มขึ้นจาก 0.04 บาท ต่อหุ้นขึ้นมาอยู่ที่ 0.47 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครึ่งปีแรกเรายังประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวม 150 ล้านบาท

“ท่ามกลางปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย แต่ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำของเรายังคงเติบโตต่อเนื่อง และสามารถขยายตัวได้ เนื่องจากเรามีทีมวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ทำให้สามารถพัฒนาสินค้าที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน” นายพีระศักดิ์ กล่าว

สำหรับการเติบโตในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 TFM มีรายได้จากการขาย 1,296.7 ล้านบาท ขณะที่กำไรขั้นต้น อยู่ที่ 243.5 ล้านบาท เติบโตขึ้น 98.9 เปอร์เซ็นต์ โดยกำไรสุทธิ อยู่ที่ 129.4 ล้านบาท เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากปีที่ผ่านมาถึง 170.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลจากความสม่ำเสมอของการดำเนินกลยุทธ์บริหารจัดการพอร์ตสินค้าที่มุ่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน การขยายตลาด และบริหารจัดการต้นทุนการผลิต ซึ่งรวมไปถึงประสิทธิภาพในการผลิต พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าอาหารสัตว์น้ำสู่สินค้าที่มีศักยภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 18.8 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากอัตราขั้นต้นที่ 9.1 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า เช่นเดียวกับอัตรากำไรสุทธิ ที่เพิ่มเป็น 9.8 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 3.1 เปอร์เซ็นต์ อัตรากำไรต่อหุ้นปรับเพิ่มจาก 0.10 บาทต่อหุ้น ขึ้นมาอยู่ที่ 0.26 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในครึ่งหลังปี 2567 บริษัทฯ คาดการณ์ว่ายอดขายกลุ่มอาหารสัตว์น้ำกำลังจะกลับมาเติบโตทั้งจากการขยายตลาด และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยบริษัทฯ จะมุ่งต่อยอดการพัฒนาอาหารสัตว์น้ำให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ตอบโจทย์เกษตรกรในแต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาค

“นอกจากภาคธุรกิจแล้วเรายังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเกษตรกรไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ ในด้านต่าง ๆ เช่น การเพาะเลี้ยง และนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น โดยเดินหน้าจัดทีมให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง เช่น  ประโยชน์ของการใช้พลังงานสะอาดภายในฟาร์มกุ้ง ฟาร์มปลากะพง การเลือกใช้วัตถุดิบในห่วงโซ่อุปทาน และโทษของการใช้สารต้องห้ามในการเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นต้น ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ร่วมมือกับกลุ่มไทยยูเนี่ยน มีมาตรการรับซื้อผลผลิตสัตว์น้ำที่เป็นวัตถุดิบหลักในกลุ่มฯ เช่น กุ้งขาว และปลากะพง เป็นต้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกร ในการหาช่องทางตลาดปลายทางให้กับเกษตรกร ซึ่งได้มีการทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี” นายพีระศักดิ์ กล่าว

About pawarit

Check Also

DHL Supply Chain ประเทศไทย จับมือ มิชลิน เปิดตัวรถหัวลากไฟฟ้า ลดมลพิษสู่เป้าหมาย Net Zero

ใส่ใจสิ่งแวดล้อม DHL Supply Chain ประเทศไทย จับมือกับมิชลิน เปิดตัวรถหัวลากไฟฟ้า 100% เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050

GM จับมือ NVIDIA สร้างรถยนต์อัจฉริยะ โรงงานหุ่นยนต์ ด้วยพลัง AI

เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นการจับมือกันครั้งใหญ่ของวงการยานยนต์และเทคโนโลยีเลยทีเดียว บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง General Motors (GM) ประกาศร่วมมือกับ NVIDIA ผู้นำด้านเทคโนโลยี AI เพื่อพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ โรงงานอัจฉริยะ และหุ่นยนต์ที่ใช้พลังของ AI และการจำลองขั้นสูง