ประเทศไทยและออสเตรเลียกำลังร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้าในระดับภูมิภาคที่ยั่งยืนและมั่นคงยิ่งขึ้น โดยประเด็นสำคัญคือการเพิ่มมูลค่าการส่งออกยานยนต์ ควบคู่ไปกับการรักษาตำแหน่งของไทยในฐานะผู้ส่งออกรถกระบะอันดับหนึ่งไปยังออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการยืนยันจากนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย

ประเด็นสำคัญในการหารือคือ มาตรฐานประสิทธิภาพยานยนต์ใหม่ (New Vehicle Efficiency Standard – NVES) ของออสเตรเลีย ซึ่งสนับสนุนการนำยานยนต์ปล่อยมลพิษต่ำและเป็นศูนย์มาใช้ มาตรฐานดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี พ.ศ. 2568 และจะเริ่มมีการบังคับใช้อย่างจริงจังในวันที่ 1 กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2568 รัฐมนตรีพิชัยสนับสนุนมุมมองของอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่แสดงความกังวลว่าผู้ผลิตรถยนต์ในไทยยังไม่พร้อมเต็มที่ และเรียกร้องให้มีการดำเนินการตามมาตรฐานเหล่านี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้า
ประเทศไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกรถกระบะรายใหญ่ที่สุดไปยังออสเตรเลีย โดยมีการส่งออกมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (153,000 ล้านบาท) ในปี 2567 นอกเหนือจากการส่งออกยานยนต์ ทั้งสองประเทศมีข้อตกลงการค้าเสรีที่สำคัญ 3 ฉบับ และกำลังทำงานร่วมกันภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ไทย-ออสเตรเลีย และ AANZFTA ที่ได้รับการยกระดับ
รัฐมนตรีพิชัยเน้นย้ำให้ทั้งสองประเทศใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเหล่านี้ โดยเฉพาะในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูล และชี้ให้เห็นว่าความมั่นคงทางพลังงานของไทยเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
ในปี พ.ศ. 2567 มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยและออสเตรเลียอยู่ที่ประมาณ 11,800 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยไทยยังคงรักษาส่วนเกินดุลการค้าไว้ที่ 10,200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สินค้าส่งออกหลักของไทย ได้แก่ รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ ในขณะที่สินค้านำเข้าหลักจากออสเตรเลีย ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และโลหะมีค่า ทั้งสองประเทศยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการค้าและความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก และกำลังมุ่งเน้นไปที่โซลูชันที่ยั่งยืนเพื่อให้มั่นใจถึงการเติบโตร่วมกัน
ที่มา : https://afma.org.au/thailand-and-australia-to-strengthen-automotive-trade-ties/