ศูนย์พลาสติก SKZ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิธีการตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนพลาสติกแบบไม่ทำลาย โดยอาศัยเทคโนโลยีเทอร์โมกราฟี ซึ่งเป็นการถ่ายภาพความร้อน เพื่อตรวจจับข้อบกพร่องที่ซ่อนอยู่ภายในชิ้นงาน เช่น รูพรุน หรืออนุภาคแปลกปลอม ซึ่งหากปล่อยปะละเลยอาจส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย

เทอร์โมกราฟี: ดวงตาที่มองเห็นสิ่งที่มองไม่เห็น
เทอร์โมกราฟีทำงานโดยการตรวจจับรังสีอินฟราเรดที่แผ่ออกมาจากวัตถุ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิของวัตถุนั้น เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับชิ้นส่วนพลาสติก เทอร์โมกราฟีสามารถตรวจพบความแตกต่างของอุณหภูมิที่เกิดจากข้อบกพร่องภายในได้อย่างแม่นยำ เช่น รูพรุนจะทำให้ความร้อนกระจายตัวแตกต่างจากส่วนอื่นๆ ของชิ้นงาน ทำให้เห็นเป็นภาพความร้อนที่แตกต่างกัน
ข้อดีของเทอร์โมกราฟี
- ตรวจจับข้อบกพร่องได้รวดเร็วและแม่นยำ: เทอร์โมกราฟีสามารถตรวจสอบชิ้นงานได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม ทำให้สามารถตรวจพบข้อบกพร่องได้ตั้งแต่ในขั้นตอนการผลิต
- ไม่ทำลายชิ้นงาน: กระบวนการตรวจสอบด้วยเทอร์โมกราฟีไม่ส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของชิ้นงาน ทำให้สามารถนำชิ้นงานกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
- ตรวจจับได้หลากหลายชนิดของข้อบกพร่อง: ไม่เพียงแต่ตรวจพบรูพรุน แต่ยังสามารถตรวจจับอนุภาคแปลกปลอม เช่น โลหะ แก้ว หรือแม้แต่พลาสติกชนิดอื่นๆ ที่ปนเปื้อนมาได้
- เหมาะสำหรับชิ้นงานหลากหลายชนิด: เทอร์โมกราฟีสามารถนำไปใช้กับชิ้นส่วนพลาสติกที่มีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันได้อย่างหลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์ ภาชนะ และชิ้นส่วนอุตสาหกรรม
SKZ ผู้นำในการพัฒนานวัตกรรม
SKZ ได้พัฒนาวิธีการใช้เทอร์โมกราฟีในการตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนพลาสติกให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม นอกจากนี้ SKZ ยังให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านเทคนิคแก่ผู้ประกอบการที่สนใจนำเทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้
อนาคตของการควบคุมคุณภาพ
เทอร์โมกราฟีถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการควบคุมคุณภาพในอุตสาหกรรมพลาสติก ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงขึ้น ลดปริมาณของเสีย และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น