ภาคการผลิตของเวียดนามในเดือนพฤษภาคม 2568 เผชิญกับความท้าทายจาก ยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุปสงค์การส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รายงานจาก S&P Global Ratings ระบุว่า ผลผลิตกลับมาเติบโต และภาพรวมภาวะธุรกิจโดยรวมยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เนื่องจากบริษัทบางแห่งเริ่มมีความมั่นคงในนโยบายภาษีมากขึ้นกว่าเดือนเมษายน

ดัชนี PMI ชี้ภาคการผลิตใกล้ฟื้นตัว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ของ S&P Global Vietnam ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 45.6 ในเดือนเมษายน มาอยู่ที่ 49.8 ในเดือนพฤษภาคม แม้จะยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการใกล้จะทรงตัวของภาวะธุรกิจในภาคส่วนนี้ โดยยอดคำสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศลดลงในอัตราที่เร็วกว่ายอดคำสั่งซื้อใหม่ทั้งหมด ส่วนยอดคำสั่งซื้อใหม่โดยรวมลดลงในอัตราที่ช้าลงกว่าเดือนก่อนหน้า
การผลิตฟื้นตัวท่ามกลางความกังวลด้านภาษี
แม้ว่ายอดคำสั่งซื้อใหม่จะยังคงลดลง แต่ ผลผลิตกลับมาเติบโตในเดือนพฤษภาคม หลังจากลดลงในเดือนเมษายน ซึ่งมีรายงานว่าได้รับแรงสนับสนุนจากความมั่นคงที่มากขึ้นในนโยบายภาษี รวมถึงการปรับปรุงกำลังการผลิตด้วย ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเวียดนามดีขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางนโยบายภาษีที่มั่นคงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการหลายรายยังคงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษี ทำให้ความเชื่อมั่นโดยรวมยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
การจ้างงานและต้นทุน
ปริมาณงานที่ลดลงและการลาออกของพนักงานส่งผลให้ การจ้างงานในภาคการผลิตลดลงต่อเนื่อง ขณะที่แบ็คล็อกของงานก็ยังคงลดลงเช่นกัน แต่การลดลงของปริมาณงานที่ยังทำไม่เสร็จชะลอตัวลงเล็กน้อย ผู้ผลิตเริ่ม เพิ่มกิจกรรมการจัดซื้อเล็กน้อย ในเดือนพฤษภาคม เพื่อขยายผลผลิต ซึ่งเป็นการสิ้นสุดการหดตัวติดต่อกันสองเดือน แต่สต็อกปัจจัยการผลิตและสินค้าสำเร็จรูปยังคงลดลง เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ไม่เต็มใจที่จะสต็อกสินค้า
ในด้านต้นทุน ราคาปัจจัยการผลิตลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 22 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะอุปสงค์ที่ซบเซาและส่วนลดจากซัพพลายเออร์ และด้วยต้นทุนที่ลดลง ผู้ผลิตจึง ยังคงลดราคาขายสินค้าของตนเองลงอย่างต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน