ISO 26262 คือมาตรฐานสากลที่กำหนดขึ้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมุ่งเน้นไปที่การลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเหล่านี้ ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุหรืออันตรายต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ

ทำไมต้องมี ISO 26262?
รถยนต์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น ระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานต่างๆ ของรถยนต์ เช่น ระบบเบรก ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบถุงลมนิรภัย หากระบบเหล่านี้เกิดความผิดพลาด อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ดังนั้น ISO 26262 จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการออกแบบ พัฒนา และทดสอบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ ให้มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
ISO 26262 ครอบคลุมอะไรบ้าง?
มาตรฐาน ISO 26262 ครอบคลุมทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การพัฒนา การทดสอบ ไปจนถึงการผลิตและการบำรุงรักษา โดยแบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็น 4 ระดับ (ASIL – Automotive Safety Integrity Level) ตั้งแต่ A (ต่ำสุด) ถึง D (สูงสุด) ซึ่งจะกำหนดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่แตกต่างกันไป
ประโยชน์ของ ISO 26262
- เพิ่มความปลอดภัย: ช่วยลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ ทำให้รถยนต์มีความปลอดภัยมากขึ้น
- สร้างความน่าเชื่อถือ: ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัยของรถยนต์
- ตอบสนองความต้องการของตลาด: ผู้ผลิตรถยนต์ที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 26262 จะได้รับการยอมรับจากตลาดและลูกค้ามากขึ้น
- ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย: การปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 26262 ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้อง หากเกิดอุบัติเหตุจากความผิดพลาดของระบบ
ISO 26262 จึงเป็นมาตรฐานที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ต้องการผลิตรถยนต์ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ