MIL-STD-810H กับ IP68 คืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร ทั้งสองมาตรฐานถูกกำหนดออกมาเพื่อการปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายและครอบคลุมด้านความทนทานที่แตกต่างกัน

MIL-STD-810H:
MIL-STD-810 เป็นมาตรฐานทางการทหารของสหรัฐอเมริกาที่รับรองว่าอุปกรณ์นั้น ๆ สามารถทนต่อสภาวะเฉพาะและสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งสามารถทำได้โดยการจำลองผลกระทบภายในห้องแล็ปที่ถูกกำหนดค่าสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
จุดเริ่มต้นของมาตรฐาน MIL-STD-810 ได้รับการพัฒนาครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1950 เพื่อทดสอบอุปกรณ์ทางทหาร แต่มาตรฐานดังกล่าวได้ขยายออกไปให้ครอบคลุมเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภค เพื่อแสดงให้เห็นถึงความทนทานของอุปกรณ์ เช่น แล็ปท็อป แท็ปแล็ต หรือสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
MIL-STD-810H เป็นมาตรฐานเวอร์ชันที่ได้รับการปรับปรุงล่าสุด แทนที่ MIL-STD-810G เปิดตัวในปี 2019
การทดสอบ MIL-STD-810H
MIL-STD-810H หรือ Military Standard 810H เป็นชุดมาตรฐานด้านประสิทธิภาพและการทดสอบที่กำหนดโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา โดยสรุปขั้นตอนการทดสอบด้านสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายเพื่อให้มั่นใจถึงความทนทานและความน่าเชื่อถือ เช่น ฝน ลม ความชื้น เชื้อรา สนิม ทรายและฝุ่น การกระแทก การสั่นสะเทือน และอื่น ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เป็นสภาวะแวดล้อมส่วนใหญ่ที่ภารกิจของกองทัพอาจจะต้องเผชิญ
มาตรฐานนี้ ปัจจุบันผู้ผลิตหรือแบรนด์ชั้นนำจะใช้ประโยชน์จากมาตรฐานนี้ เพื่อการรับรองอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางอุตสาหกรรม ที่เห็นบ่อย ๆ คือ แท็บเล็ตและแล็ปท็อป ซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อการขับเคลื่อนงานภาคสนามในรูปแบบ Working Anywhere หากคุณกำลังมองหาเทคโนโลยีที่ทนทาน คุณอาจพบเจอมาตรฐานทางการทหาร ‘MIL-STD-810H’
IP68:
IP68 เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดระดับการป้องกันโดยชิ้นส่วนประกอบสำหรับอุปกรณ์อิเล็กอุปกรณ์ทรอนิกส์จากสิ่งแปลกปลอมที่เป็นของแข็งและของเหลวได้ “IP” ย่อมาจาก “Ingress Protection” และตัวเลขที่ตามมาแสดงถึงระดับการป้องกันต่อองค์ประกอบเหล่านี้
ในกรณีของ IP68:
- เลข “6” หมายถึง ระดับสูงสุดของการป้องกันอนุภาคจากของแข็ง ซึ่งรวมไปถึงการกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ด้วย
- เลข “8” หมายถึง ระดับการป้องกันน้ำในระดับสูง ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์นั้น ๆ จะได้รับการปกป้องจากการจุ่มลงในน้ำอย่างต่อเนื่องเกินที่ความลึก 1 เมตรตามเวลาที่กำหนด ซึ่งโดยทั่วไปจะนานถึง 30 นาที
ระดับ IP68 มักพบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน นาฬิกาอัจฉริยะ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่อาจสัมผัสกับฝุ่นและน้ำ การรับรองนี้ให้ความมั่นใจแก่ผู้ใช้ว่าอุปกรณ์สามารถทนต่อการแช่น้ำได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งโดยไม่เกิดความเสียหาย
การเปรียบเทียบทั้ง 2 มาตรฐาน:
MIL-STD-810H และ IP68 คือสองมาตรฐานที่ใช้ในการทดสอบและระบุความทนทานของอุปกรณ์ต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน:
- MIL-STD-810H เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการทดสอบความทนทานของอุปกรณ์ทางทหารต่อเงื่อนไขแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น การกระแทก การสั่นสะเทือน การทดสอบความทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงหรือต่ำ การทดสอบความทนทานต่อความชื้น และอื่น ๆ มาตรฐานนี้ไม่ได้ระบุโดยตรงถึงการทนทานต่อน้ำหรือฝุ่น แต่สามารถรวมถึงการทดสอบเหล่านี้เพื่อการอนุมัติหรือการรับรองอย่างสมบูรณ์แบบของอุปกรณ์
- IP68 เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการระบุความทนทานต่อน้ำและฝุ่นโดยเฉพาะอย่างละเอียด มาตรฐาน IP68 ได้รับการออกแบบมาเพื่อทดสอบและระบุความทนทานของอุปกรณ์ต่อการแช่น้ำในเวลายาวนาน โดยปกติแล้วสามารถแช่น้ำได้ในระยะสูงสุดของเวลาและความลึกที่ระบุไว้ ซึ่งทั่วไปก็คือการแช่น้ำในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที ในความลึกไม่เกิน 1 เมตร ซึ่งจะระบุเป็นข้อกำหนดทั่วไป แต่บางบริษัทหรือผู้ผลิตอาจทดสอบและระบุรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความทนทานต่อน้ำได้ เช่น การทดสอบการแช่น้ำในลึกมากกว่า 1 เมตร หรือเวลาที่นานกว่า 30 นาที โดยอาจต่างกันไปตามเงื่อนไขของผู้ผลิตและการใช้งานที่ต่างกันไป
เหมาะกับใคร
MIL-STD-810H มุ่งเน้นในอุตสาหกรรมที่มีเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด เช่น การทหาร การบินและอวกาศ และภาคส่วนอื่นๆ ที่อุปกรณ์ต้องทำงานได้อย่างน่าเชื่อถือในสถานการณ์ที่ท้าทาย การใช้งานสำหรับยานพาหนะทางทหาร อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์ภาคสนาม และส่วนประกอบด้านการบินและอวกาศเป็นตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่อาจเป็นไปตามมาตรฐาน MIL-STD-810H
ในขณะที่ IP68 จะเห็นอยู่ในอุตสาหกรรมทั่วไป อย่าง Manufacturing, Logistics หรือ Retail ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายแบรนด์ชั้นนำ เช่น Handheld Scanner, RFID หรือ Tablet Enterprise Grad เป็นต้น
- การประยุกต์ใช้งาน – สมาร์ทโฟน กล้องถ่ายรูป เครื่องติดตามฟิตเนส เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทนทาน กล้องใต้น้ำ และอุปกรณ์อุตสาหกรรมบางประเภทเป็นตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่มักจะมีระดับ IP68
- ความทนทานที่ครอบคลุม – หากความทนทานที่ครอบคลุมภายใต้แรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ (เช่น อุณหภูมิสุดขั้ว การกระแทก การสั่นสะเทือน) เป็นข้อกำหนดที่สำคัญ MIL-STD-810H จะเหมาะสมกว่า
- ความต้านทานฝุ่นและน้ำ – หากข้อกังวลหลักคือการป้องกันฝุ่นและน้ำ และอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ภายใต้สภาวะทางการทหารที่รุนแรงระดับสูงสุด ระดับ IP68 อาจเพียงพอ
อุปกรณ์บางรุ่นอาจรองรับทั้ง 2 มาตรฐาน:
ในทางปฏิบัติ อุปกรณ์ที่ตรงตามมาตรฐาน MIL-STD-810H และมีระดับ IP68 ถือว่ามีความทนทานสูง สามารถทนต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงฝุ่นและน้ำ อย่างไรก็ตาม การเข้าใจรายละเอียดเฉพาะของมาตรฐานและการให้คะแนนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อประเมินความเหมาะสมของอุปกรณ์สำหรับสภาพแวดล้อมหรือการใช้งานเฉพาะ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคืออุปกรณ์บางชนิดอาจรองรับทั้งมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP68 อยู่ในผลิตภัณฑ์รุ่นเดียวกัน ซึ่งทำให้อุปกรณ์มีความทนทานและการปกป้องสิ่งแวดล้อมในระดับที่สูงขึ้น เมื่อเลือกอุปกรณ์ จำเป็นต้องเข้าใจข้อกำหนดเฉพาะของการใช้งาน และเลือกมาตรฐานให้เหมาะสมกับรูปแบบการนำไปใช้งานจริง เพราะมาตรฐานที่เพิ่มเข้ามาอาจจะส่งผลต่อราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น งานภาคสนามแนว Field Service อาจจำเป็นต้องมี MIL-STD-810H หรืองานในคลังสินค้า (Warehouse) และห้างร้านค้าปลีก (Retail) อาจจะมีเพียงแค่ IP68 ก็เพียงพอแล้ว