Accenture กับ Schaeffler ร่วมกันปูทางไปสู่หุ่นยนต์มนุษย์ทางอุตสาหกรรม ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี NVIDIA และ Microsoft

Accenture กำลังทำงานร่วมกับ Schaeffler AG เพื่อคิดค้นระบบอัตโนมัติใหม่สำหรับอุตสาหกรรมโดยใช้ AI ทางกายภาพและหุ่นยนต์ ล่าสุดมีการจัดแสดงในงาน Hannover Messe 2025 ประเทศเยอรมนี ทำให้เห็นถึงวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละฉากทัศน์ของการทำงาน ตั้งแต่งานที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ไปจนถึงการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยอาศัยเทคโนโลยีล่าสุดจาก NVIDIA และ Microsoft ในด้านการจำลอง, AI และข้อมูล ฉากทัศน์เหล่านี้ ได้แก่ ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) หุ่นยนต์โคบอต EMMA ของ Schaeffler และหุ่นยนต์มนุษย์แบบอเนกประสงค์ เช่น Digit ของ Agility Robotics และ Phoenix ของ Sanctuary AI

Accenture และ Schaeffler ร่วมกันพัฒนาการพิสูจน์แนวคิด หรือ PoC (Proof-of-Concept) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์จากการจำลองด้วยปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถยกระดับโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของ Schaeffler ได้ในสามระดับ นั่นคือ

1. การจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกในแบบอุดมคติ

ความสามารถของ Accenture ในการสร้างแฝดดิจิทัล (digital twins) ของโรงงานและคลังสินค้าบนแพลตฟอร์มการพัฒนา NVIDIA Omniverse ช่วยให้ Schaeffler สามารถจำลองและกำหนดโครงร่างที่ดีที่สุดในการจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกล่วงหน้า จึงช่วยลดเวลาในขั้นตอนการทดสอบเพื่อรับรองการทำงาน รวมถึงการจัดวางตำแหน่งสายการผลิตและชุดเครื่องมือในสถานีงานที่มีการไหลของวัสดุแบบพลวัตในแบบเสมือนจริง และยังเห็นถึงการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ได้อย่างไร้รอยต่อ

การทดสอบเพื่อให้การรับรองในแบบเสมือนจริงยังช่วยให้ Schaeffler สามารถจัดระดับการเป็นแบบอัตโนมัติให้เหมาะกับสิ่งอำนวยความสะดวกในแต่ละแห่งได้อีกด้วย โดย PoC ครอบคลุมฉากทัศน์ต่างๆ ที่มีความต่างกันทั้งประเภทและความซับซ้อนของ AI ทางกายภาพ เช่น งานแรกเริ่มที่ทำแบบแมนวล รวมทั้ง AMR ที่ใช้ในงานขนส่ง และแขนกลที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น EMMA และหุ่นยนต์มนุษย์แบบอเนกประสงค์ที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกแบบอัตโนมัติขั้นสูง

นอกจากนี้ ตามรายงานการวิจัยล่าสุดของ Accenture ยังพบด้วยว่า 49% ของผู้จัดการโรงงานของบริษัทอุตสาหกรรม คาดว่า AMR จะเป็นองค์ประกอบสำคัญของโรงงานในอนาคต และ 43% เชื่อว่าหุ่นยนต์มนุษย์จะกลายเป็นส่วนประกอบมาตรฐานของกระบวนการประกอบ

2. ปูทางไปสู่ AI ทางกายภาพและหุ่นยนต์มนุษย์แบบอเนกประสงค์

Accenture และ Schaeffler เริ่มปรับการใช้ Mega ซึ่งเป็น NVIDIA Omniverse Blueprint เพื่อทดสอบกลุ่มหุ่นยนต์ รวมถึงหุ่นยนต์มนุษย์แบบอเนกประสงค์ในโรงงานและคลังสินค้าในลักษณะแฝดดิจิทัลทางอุตสาหกรรม

PoC ได้แสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์ Digit ของ Agility Robotics ที่กำลังปฏิบัติการขนถ่ายวัสดุ เช่น การเคลื่อนย้ายและขนส่งลังพลาสติกไปยังพื้นที่จัดวางชุดเครื่องมือและการทดสอบเพื่อรับรองการทำงาน นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นด้วยว่า Phoenix ซึ่งเป็นหุ่นยนต์มนุษย์แบบอเนกประสงค์ที่คล่องแคล่วของ Sanctuary AI สามารถเรียนรู้ภารกิจในโลกแห่งความเป็นจริงใน Omniverse ได้อย่างไรจากการสังเกตฉากทัศน์จำลอง (หมายเหตุ: Accenture ได้ร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Sanctuary AI ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567)

ตัวอย่างเช่น การรวบรวมอะไหล่ตามคำสั่งซื้อแต่ละรายการภายในศูนย์อะไหล่แห่งหนึ่งของ Schaeffler โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ด้วยการเลียนแบบ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก AI ด้านการมองเห็น เช่น NVIDIA Metropolis โดยการจับภาพการเคลื่อนไหวของคนงานและหุ่นยนต์มนุษย์ในโลกแห่งความเป็นจริงและแปลกลับมาเป็นการจำลองใน Omniverse

จากการที่ Accenture ค้นพบ Technology Vision ในปี พ.ศ. 2567 และหุ่นยนต์มนุษย์กำลังเป็นที่สนใจเนื่องจากมีความคล่องตัว หุ่นยนต์เหล่านี้เข้ากันได้ดีอย่างรวดเร็วและง่ายกับโลกที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยสามารถเข้าถึงพื้นที่ทางกายภาพและมีส่วนร่วมในเวิร์กโฟลว์ที่ออกแบบมาสำหรับมนุษย์โดยเฉพาะ

3. ปรับการปฏิบัติงานของหุ่นยนต์ในเวลาจริงได้อย่างเหมาะสมที่สุด

Accenture และ Avanade ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ Microsoft กำลังร่วมมือกับ Schaeffler เพื่อใช้ข้อมูลจำลองจาก Omniverse มาปรับการทำงานของหุ่นยนต์ในคลังสินค้าและในพื้นที่การผลิตให้มีสมรรถนะทางกายภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น การหลีกเลี่ยงความแออัด โดยข้อมูลจากฉากทัศน์จำลองต่างๆ จะถูกป้อนเข้าสู่ Microsoft Fabric ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้รวมข้อมูลให้เป็นหนึ่งเดียว ขณะที่ผู้จัดการในพื้นที่และพนักงานที่รับผิดชอบด้านปฏิบัติการสามารถเปรียบเทียบตัวบ่งชี้สมรรถนะหลัก เช่น ความพร้อมใช้งาน การใช้ประโยชน์ และประสิทธิผลของอุปกรณ์โดยรวมที่อยู่ในฉากทัศน์เหล่านี้ เพื่อบ่งชี้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นให้ทันเวลาที่จะดำเนินการได้

Accenture และ Avanade ได้พัฒนาวิธีการเพื่อใช้ในพื้นที่การผลิตของ Schaeffler ที่เมือง Schweinfurt ประเทศเยอรมนี โดยใช้ MS Fabric ควบคู่ไปกับตัวแทนปฏิบัติการโรงงานที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI วิธีนี้จะช่วยให้พนักงานเกิดความเข้าใจอย่างแท้จริงเกี่ยวกับการผลิตและแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น โดยพนักงานสามารถตั้งคำถามที่เป็นภาษาธรรมชาติได้

มองต่อไปในอนาคต โรงงานเสมือนจริงสามารถทำให้เป็นแบบออนบอร์ดได้ ช่วยให้วิศวกรและผู้วางแผนสามารถโต้ตอบกับข้อมูลจำลองของหุ่นยนต์และระบบการผลิตได้อย่างชาญฉลาด เช่น การเรียกแดชบอร์ดขึ้นมาและปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์การจำลองโดยการออกคำสั่งด้วยเสียง

Andreas Schick ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Schaeffler AG กล่าวว่า — “Schaeffler ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ เช่น AI ทางกายภาพ แฝดดิจิทัล และหุ่นยนต์มนุษย์ เพื่อยกระดับความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงานในเครือข่ายการผลิตของเราทั่วโลก” “การร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง Accenture พร้อมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยจาก NVIDIA และ Microsoft จะช่วยเติมความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพของเราได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือวิธีการที่นำพวกเรามาร่วมกันกำหนดทิศทางการผลิตสำหรับอนาคต”

Patrick Vollmer หัวหน้ากลุ่มอุตสาหกรรมทั่วโลก ฝ่ายอุตสาหกรรมของ Accenture กล่าวว่า — “AI ทางกายภาพกำลังสร้างระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมขึ้นมาใหม่ เนื่องจาก AI ช่วยในการฝึกและควบคุมทั้งกลุ่มหุ่นยนต์ AMR ​​หุ่นยนต์เคลื่อนที่ที่ปรับตัวได้ และหุ่นยนต์มนุษย์แบบอเนกประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือของเรากับ Schaeffler, Microsoft และ NVIDIA แสดงให้เห็นว่าลูกค้าและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สามารถร่วมกันสร้างนวัตกรรมด้วยการเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เป็นวิธีการที่สามารถช่วยผู้ผลิตรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั้ง การปรับตัว ผลิตภาพ และกำลังคน”

Mike Geyer หัวหน้าฝ่าย Digital Twins ของ NVIDIA กล่าวว่า — “โรงงานในอนาคตต้องการความร่วมมือที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนระหว่าง มนุษย์ ระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม และกลุ่มหุ่นยนต์หลากหลายแบบ” “ด้วยการใช้ Mega และ NVIDIA Omniverse เพื่อจำลองและทดสอบหุ่นยนต์ประเภทต่างๆ ในระดับขนาดใหญ่ภายในแฝดดิจิทัลทางอุตสาหกรรม ซึ่ง Accenture และ Schaeffler กำลังคิดค้นการปฏิบัติการอุตสาหกรรมใหม่ด้วย AI ทางกายภาพ”

ที่มา: Schaeffler AG

About pawarit

Check Also

DHL Group จับมือ Boston Dynamics เตรียมใช้งานหุ่นยนต์ Stretch กว่า 1,000 ตัวทั่วโลก ขยายสู่การหยิบกล่องสินค้า 700 กล่องต่อชั่วโมง

DHL Group ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เชิงกลยุทธ์กับ Boston Dynamics ผู้นำด้านหุ่นยนต์ขั้นสูง ต่อเนื่องจากความสำเร็จของหุ่นยนต์ Stretch ที่ DHL นำมาใช้ในการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์โดยอัตโนมัติ ข้อตกลงนี้จะนำไปสู่การใช้งานหุ่นยนต์ …

Universal Robots เปิดตัว UR15 โคบอทใหม่ล่าสุด พร้อมเทคโนโลยี OptiMove และ AI Accelerator

Universal Robots (UR) เปิดตัวหุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน (โคบอท) รุ่นล่าสุด UR15 ในงาน Automate ที่เมืองดีทรอยต์ โดยขณะนี้เปิดให้สั่งซื้อแล้ว และมีกำหนดเริ่มจัดส่งในเดือนมิถุนายน