Cofactr ผนึกผู้ผลิตสหรัฐฯ รับมือภาษีนำเข้าแบบเรียลไทม์ ด้วยแพลตฟอร์มจัดการซัพพลายเชนอัจฉริยะ

บริษัท Cofactr ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Source-to-Pay และโลจิสติกส์สำหรับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ประกาศความร่วมมือกับผู้ผลิตในสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านภาษีและจัดการกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าได้อย่างทันท่วงที

บริษัท Cofactr นำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถลดผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่เพิ่งมีการบังคับใช้ โดยการเพิ่มความโปร่งใสแบบ End-to-End ในห่วงโซ่อุปทาน และระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการจัดทำเอกสารสำคัญต่าง ๆ ภายในแพลตฟอร์ม

ด้วยความสามารถของแพลตฟอร์มนี้ ผู้ผลิตจะสามารถจำแนกประเภทผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำและคำนวณภาษีสำหรับสินค้านำเข้าแต่ละรายการได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับกระบวนการทางกฎหมายต่าง ๆ เช่น การขอคืนอากร (Duty Drawbacks), การนำเข้าภายใต้พันธบัตรชั่วคราว (Temporary Import Bonding) และการขอยกเว้นภาษี De Minimis

แม้แต่ผู้ผลิตในสหรัฐฯ ที่ประกอบผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ก็ยังต้องนำเข้าชิ้นส่วนบางอย่างจากต่างประเทศ ทำให้ผู้ผลิตทุกรายในสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวเพื่อรับมือกับภาษีใหม่และการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทาน

ความท้าทายสำคัญคือ ผู้ผลิตจำเป็นต้องติดตามชิ้นส่วนนับล้านรายการที่เคลื่อนไหวไปตามห่วงโซ่อุปทาน และจำแนกประเภทผลิตภัณฑ์แต่ละรายการอย่างถูกต้องตามประเทศต้นกำเนิดและรหัสพิกัดศุลกากร (Harmonized Tariff Schedule – HTS) ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้ในการระบุอัตราภาษีนำเข้า เพื่อทำการคำนวณภาษี

สำหรับผู้ผลิตจำนวนมาก กระบวนการเหล่านี้ยังคงดำเนินการด้วยตนเอง โดยอิงจากใบกำกับสินค้า (Packing Slips), ใบแจ้งหนี้การค้า (Commercial Invoices), สเปรดชีต และเอกสารที่เป็นกระดาษ ซึ่งทำให้ยากต่อการปรับขนาดเพื่อรองรับข้อกำหนดของภาษีใหม่ และนำไปสู่ข้อผิดพลาดที่เพิ่มขึ้น

แพลตฟอร์มของ Cofactr ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถจัดการผลกระทบจากภาษีและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนโยบายและกระบวนการทางการค้าแบบเรียลไทม์ได้ดังนี้:

• ใช้ AI อัจฉริยะ: ทำงานภายใต้ระบบความปลอดภัยและการปฏิบัติตามมาตรฐาน ITAR ที่อุตสาหกรรมที่มีข้อกำหนดสูงต้องการ เพื่ออ่าน แยกแยะ และเติมข้อมูลเอกสารและการสื่อสารที่ขาดหายไปสำหรับชิ้นส่วนแต่ละรายการที่ผู้ผลิตจัดการ
• ใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่: อ้างอิงข้อมูลชิ้นส่วนนับล้านรายการเพื่อเติมรหัส HTS และประเทศต้นกำเนิดโดยอัตโนมัติ (ตรวจสอบโดยใบกำกับสินค้าและเอกสารการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ณ วันที่รับสินค้า) ให้กับลูกค้า
• ติดตามทุกขั้นตอน: ด้วยการติดตามทุกขั้นตอนการเดินทางของชิ้นส่วนในผลิตภัณฑ์ และการจัดเก็บเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดไว้ในที่เดียว ผู้ผลิตจึงสามารถเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการยื่นขอคืนอากร, การขอใช้สิทธิ์นำเข้าภายใต้พันธบัตรชั่วคราว และการจัดการการยกเว้นภาษี De Minimis ได้อย่างง่ายดาย

“บ่อยครั้งที่ผู้ผลิตไม่ทราบว่ามีปัญหากับการจัดส่งจนกว่าสินค้าจะถูกกักกันโดยศุลกากร ซึ่งอาจเป็นเรื่องง่าย ๆ เช่น การจำแนกประเภทชิ้นส่วนผิดพลาด หรือเอกสารแผ่นเดียวที่เว้นว่างไว้ท่ามกลางเอกสารจำนวนมาก แต่ถึงตอนนั้นพวกเขาก็กำลังเผชิญกับค่าปรับและความล่าช้าในการผลิตแล้ว” นายแมทธิว ฮาเบอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Cofactr กล่าว

ที่มา : https://www.manufacturing.net/supply-chain/news/22938659/helping-us-manufacturers-navigate-tariffs-with-automated-documentation-compliance-management