Downey Ridge Environmental Company และบริษัท bp ประกาศข้อตกลงครั้งสำคัญที่จะทำให้สามารถดักจับและสกัดแยกขยะจาระบีคล้ำ (brown grease) เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลิตพลังงานอย่างยั่งยืน

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว bp จะจัดหาเงินทุนเพื่อขยายเทคโนโลยี Greasezilla ของ Downey Ridge Environmental เพื่อสนับสนุนการส่งมอบวัตถุดิบจาระบีคล้ำสู่ตลาด โดยมุ่งส่งเสริมตลาดดีเซลหมุนเวียน หรือ RD (renewable diesel) และเชื้อเพลิงสำหรับการบินที่ยั่งยืน หรือ SAF (sustainable aviation fuel)
เปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน
เทคโนโลยีอุตสาหกรรมชั้นนำที่เรียกว่า Greasezilla สามารถสกัดจาระบีคล้ำออกจากการดักขยะจาระบี แล้วนำมากลั่นให้เป็นวัตถุดิบเชื้อเพลิงชีวภาพได้เกือบบริสุทธิ์ เทคโนโลยีนี้จะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการกับไขมัน น้ำมัน และจาระบี (fats, oils, and grease; FOG) ในอนาคต ซึ่ง FOG เป็นเศษวัสดุทิ้งที่มาจากห้องครัวเชิงพาณิชย์ และจากการแปรรูปสินค้าโภคภัณฑ์ ที่โดยปกติแล้วจะนำไปเผาหรือฝังกลบ จาระบีคล้ำจึงเป็นความท้าทายในด้านค่าใช้จ่ายของเทศบาลต่างๆ เนื่องจากการกำจัดจาระบีคล้ำนั้นทั้งราคาแพงและยุ่งยาก
สำหรับการระดมทุนเพื่อเพิ่มสถานีรับ FOG ใหม่ให้ได้ถึง 40 แห่งในสหรัฐอเมริกานั้น จะมีมูลค่าสูงสุดถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อสถานี ซึ่งการใช้เทคโนโลยี Greasezilla ที่เป็นกรรมสิทธิ์นั้น จะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญสำหรับการดักจับและแปลงวัสดุขยะให้กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์อันมีค่า ด้วยการใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น RD และ SAF ซึ่งเป็นข้อมูลตามการรายงานแบบไม่เปิดเผยของ Jacobsen
เปลี่ยนเส้นทางขยะออกจากหลุมฝังกลบ
ขยะจากการดักจาระบีส่วนใหญ่มักนำไปทิ้งในหลุมฝังกลบ ซึ่งมีการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศ เมื่อมีเทนไปรวมกับน้ำฝน มีเทนในน้ำจะซึมลงไปในขยะที่ฝังอยู่ ทำให้องค์ประกอบทางเคมีและสารพิษในขยะถูกชะออกมา ซึ่งน้ำชะขยะนี้สามารถทำให้ดินและแหล่งน้ำใต้ดินโดยรอบเกิดการปนเปื้อนได้
กระบวนการนวัตกรรมของ Greasezilla จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการกำจัดขยะจาระบี นอกจากนี้ การเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าวยังช่วยลดความจุส่วนเกินของหลุมฝังกลบและต้นทุนอีกด้วย ซึ่งในรายงานปี 2023 ของ Environmental Research and Education Foundation (EREF) ระบุว่า ต้นทุนจากความจุส่วนเกินทำให้ค่าธรรมเนียมการทิ้งขยะในหลุมฝังกลบของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในปี 2022 โดยอยู่ที่ 2% ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ และ 29% ในภาคกลางตอนใต้
ประโยชน์ร่วมกัน เป้าหมายร่วมกัน
การเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทางของ Greasezilla และความสามารถในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพของ bp ก่อให้เกิดการผสมผสานความเชี่ยวชาญที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ทั้งสองบริษัทบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนผ่านวิธีการพลังงานเชิงนวัตกรรม
นอกจากจะส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมแล้ว Greasezilla ยังได้ประโยชน์จากเครือข่ายทั่วโลกของ bp ทำให้สามารถกระจายเชื้อเพลิงชีวภาพได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน bp ยังขยายการเข้าถึงวัตถุดิบที่มีคาร์บอนต่ำเพื่อตอบสนองความต้องการ SAF ที่เพิ่มมากขึ้น
การลงทุนและแผนในอนาคต
การลงทุนแรกเริ่มของ bp จะช่วยสนับสนุนการขยายการดำเนินงาน Greasezilla และบูรณาการเข้ากับห่วงโซ่อุปทานของ bp ที่มีตำแหน่งในการแข่งขันสูง โดยได้คาดว่าการดำเนินการในระยะต่อไปจะเน้นที่การขยายกำลังการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมได้สูงสุด
Nigel Dunn รองประธานอาวุโสฝ่ายการเติบโตของเชื้อเพลิงชีวภาพของ bp กล่าวสรุปว่า — “พลังงานชีวภาพเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของ bp และเรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เช่น SAF ซึ่งการทำงานด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม Greasezilla จะทำให้สามารถจัดหาเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีคาร์บอนต่ำสำหรับการแปรรูปในโรงกลั่นของเรา และตอบสนองความต้องการเชื้อเพลิงชีวภาพที่ลูกค้าของเราต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ”
Ron Crosier ประธาน Greasezilla กล่าวเสริมว่า — “เรามองหาพันธมิตรด้านพลังงานที่มุ่งมั่นต่อสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับเรา และมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนา Greasezilla ซึ่งวิสัยทัศน์ของบริษัท bp นั้นสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเรา”
ที่มา: Downey Ridge Environmental