Honeywell เปิดเผยผลการศึกษาวิจัยระดับโลกในหัวข้อ Industrial AI Insights เป็นการรวบรวมสถานภาพของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภาคอุตสาหกรรมไว้อย่างน่าสนใจ ทำให้เห็นว่า แม้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้าน AI ทั่วโลกจะมีเพียง 17% ที่นำแผน AI เบื้องต้นไปปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่มากกว่า 9 ใน 10 ถูกระบุว่า พวกเขากำลังค้นพบกรณีการใช้งานใหม่ๆ โดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการสร้างต้นแบบ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือขยายการใช้ AI

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ผู้นำด้าน AI นั้น “ถูกชี้นำ” ให้เห็นดีเห็นงามทุกอย่างกับการใช้ AI ในทางอุตสาหกรรม โดยที่ความกระตือรือร้นและการทุ่มเทให้กับการลงทุนด้าน AI นั้นมีปรากฏอยู่ทั่วไป โดยผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 94 ระบุว่าพวกเขามีแผนขยายโอกาสการใช้ประโยชน์จาก AI
Kevin Dehoff ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Honeywell กล่าวว่า — “การมาของ Gen AI และแหล่งข้อมูลจากการวิเคราะห์ขั้นสูงที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นนั้น ทำให้ AI ในทางอุตสาหกรรมมีแนวโน้มที่จะเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุด รวมทั้งสร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน”
AI ช่วยปลดล็อกคุณประโยชน์ในที่ทำงาน
ในความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่ออุตสาหกรรม ผู้นำด้าน AI เกือบสองในสาม (64%) ระบุว่า ประเด็นด้านประสิทธิภาพและผลิตภาพที่เพิ่มขึ้น นั่นคือ แนวโน้มของประโยชน์ที่จะได้รับมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 60 กล่าวว่า ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการตรวจจับภัยคุกคามจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นจาก AI และร้อยละ 59 รายงานว่า ทำให้การตัดสินใจดีขึ้นจากการใช้ข้อมูลในเวลาจริง
ผู้ตอบแบบสอบถามยังระบุถึงประโยชน์อื่นๆ ของ AI ที่มีต่อพนักงาน เช่น
- เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน (49%)
- มีความพึงพอใจในงานมากขึ้น (45%)
- มีเวลาสำหรับการพัฒนาทักษะและการคิดสร้างสรรค์มากขึ้น (44%)
- เพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน (39%)
การพัฒนาทักษะถือเป็นสิ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจในปัจจุบัน เนื่องจากกลุ่มคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์เกษียณอายุ และมีแรงงานใหม่เข้ามาทดแทนน้อยลง นายจ้างสามารถพัฒนาทักษะและฝึกทักษะใหม่ให้กับพนักงานได้เร็วขึ้นด้วย AI ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม เนื่องจาก AI ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานในระดับที่สูงขึ้นได้ ทำให้เกิดความพึงพอใจในงานมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เพิ่มผลิตภาพและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนทักษะ
Lucian Boldea ประธานและซีอีโอของ Honeywell Industrial Automation ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนว่า — “ในแต่ละกระบวนการอาจต้องใช้เครื่องมือวัด อุปกรณ์ และวาล์วต่างๆ รวมกันหลายหมื่นรายการสำหรับการสร้างผลิตภัณฑ์ อีกทั้งชิ้นส่วนจากผู้ผลิตหลายรายที่เราจัดหาให้นั้นจำเป็นต้องมีช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์สูงเพื่อการใช้งานและการบำรุงรักษา ขณะที่ช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์ดังกล่าวกลับเหลือน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้น การฝึก AI และใช้ AI ในฐานะเป็น “ผู้ช่วย” เสริมทักษะให้กับช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์น้อย จะทำให้ช่างเทคนิคเหล่านี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำงานได้ตามฐานความรู้ขององค์กรและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด อีกทั้งการปฏิบัติงานโรงงานยังมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้มากขึ้นเนื่องจากสามารถลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ได้มากมาย”
ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับ AI
แม้ว่าความกระตือรือร้นที่จะขยายการใช้ AI เป็นสิ่งที่รับรู้กันได้ แต่ยังมีประเด็นที่ท้าทายบางอย่างสำหรับการนำ AI มาใช้อย่างเต็มระบบ ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าหนึ่งในสาม (37%) รู้สึกว่าผู้บริหารระดับสูงของตนไม่เข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร และเกือบครึ่งหนึ่ง (48%) บอกว่า พวกเขาต้องอธิบายเหตุผลหรือต้องร้องขอทรัพยากรที่จำเป็นต่อการนำแผน AI ไปใช้อย่างต่อเนื่อง
Billal Hammoud ประธานและ CEO ของ Honeywell Building Automation กล่าวว่า — “ธุรกิจทุกประเภทตระหนักดีว่า AI กำลังเปลี่ยนโลกของเราและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนจากการปฏิบัติงานอาคารต่างๆ ในอนาคต เช่น โรงพยาบาล วิทยาเขต และสำนักงาน โดย AI จะทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ให้เหมาะสม ทั้งระบบ HVAC แสงสว่าง และการใช้ไฟฟ้า จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัย การดำเนินงาน และความยั่งยืน”
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงจะถูกขับเคลื่อนโดยกรณีการใช้งานที่มีความน่าสนใจ ซึ่งสามารถวัดได้จากการสมรรถนะทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่วิธีการใหม่ๆ แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ชัดเจนที่มีต่อแรงงาน ทั้งผลิตภาพ ความปลอดภัย และความเชื่อถือได้ จึงเป็นที่คาดกันว่า การนำ AI มาใช้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงานในอุตสาหกรรม
ที่มา: Honeywell