รายงานใหม่ของ ABB และ Fraunhofer IPA เผยวิธีสำหรับอุตสาหกรรมที่ยากต่อการลดการปล่อยคาร์บอนให้บรรลุผลสุทธิเป็นศูนย์ได้

ในขณะที่โลกกำลังเร่งสู่อนาคตคาร์บอนต่ำ ส่งผลให้อุตสาหกรรมหนักต่างๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการที่ต้องลดการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินงาน โดยมีรายงานร่วมกันระหว่าง ABB Motion ผู้นำระดับโลกด้านมอเตอร์และไดรฟ์ และ Fraunhofer IPA ซึ่งเป็นสถาบันด้านวิศวกรรมการผลิตและการอัตโนมัติแห่งเยอรมนี ได้นำเสนอข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการลดการปล่อยคาร์บอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้าภาคส่วนอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ยาก (เหล็กและเหล็กกล้า ซีเมนต์ สารเคมี การทำเหมืองแร่ และน้ำมันและก๊าซ) และนำเสนอวิธีการปฏิบัติในระยะสั้นและระยะยาวสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่กำลังเดินหน้าสู่ภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนของการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรม

ปัจจุบัน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดของโลกในภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นประมาณ 29% โดยอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยคาร์บอนได้ยากเหล่านั้นมีความจำเป็นเร่งด่วนในการนำเอาแนวทางที่ยั่งยืนมาใช้มากขึ้น เช่น การใช้เชื้อเพลิงทางเลือก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน

เส้นทางการปฏิบัติเพื่อลดการปล่อยมลพิษนั้นมีอยู่แล้ว โดยให้ได้ทั้งประสิทธิภาพทางพลังงาน และการทำให้เป็นแบบไฟฟ้าซึ่งมีบทบาทในการสนับสนุนที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ไดรฟ์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยปัจจุบัน มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมของโลกมีเพียง 23% เท่านั้นที่มีการติดตั้งร่วมกับไดรฟ์ (ข้อมูลตามข้อตกลงปารีส: บทบาทสำคัญของมอเตอร์และไดรฟ์ประสิทธิภาพสูงในการลดการใช้พลังงาน) แม้จะมีเพียงแค่นั้นก็ตาม แต่เมื่อนำไดรฟ์มาขับมอเตอร์ที่มีในอุปกรณ์ใช้งานต่างๆ อย่างเช่น ปั๊ม พัดลม หรือคอมเพรสเซอร์ ก็จะสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 25%

การดำเนินการที่มีความเป็นไปได้นั้น จะทำให้ผู้นำสามารถลดการปล่อยมลพิษได้ ช่วยลดต้นทุนการเป็นเจ้าของโดยรวม โดยเป็นการดำเนินการที่ถูกกำหนดไว้ผ่านนวัตกรรมที่มีเป้าหมายในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ตามที่กล่าวถึงในรายงาน

อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซกำลังเร่งความพยายามในการลดการรั่วไหลและทำให้กระบวนการต่างๆ เป็นแบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่ผลักดันให้กระบวนการลดคาร์บอนก้าวหน้าอย่างมาก ส่งผลให้การใช้เชื้อเพลิงลดลง การปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้ลดลง นอกจากนี้ ภาคส่วนนี้ยังมีการศึกษาเชื้อเพลิงทางเลือก อย่างเช่น ไฮโดรเจน

ในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้ากำลังนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ เช่น เตาเผาเหล็กแบบลดการปล่อยโดยตรงและแบบอาร์กไฟฟ้า ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่ปล่อยมลพิษน้อยกว่าวิธีการผลิตแบบเดิม

ในอุตสาหกรรมเคมี สำหรับการใช้งานที่อุณหภูมิต่ำ การใช้ปั๊มความร้อนเป็นข้อเสนอที่สร้างโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพและลดการปล่อยมลพิษ ส่วนการปรับให้เป็นแบบไฟฟ้ายังเป็นทางเลือกหนึ่งในกระบวนการลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมเหมืองแร่และปูนซีเมนต์ โดยสามารถทำให้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่มากมายกลายเป็นแบบไฟฟ้าได้ ซึ่งรวมไปถึงรถบรรทุกเหมืองแร่ รถขนของ สายพานลำเลียง เครื่องบด โรงสี และปั๊มทั้งใหม่และเก่า

รายงานของ ABB และ Fraunhofer แสดงให้เห็นว่ากระบวนการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมนั้นซับซ้อน แต่ปัจจุบันมีแนวทางแก้ไขที่สามารถนำไปดำเนินการได้ การใช้เทคโนโลยีแบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพทางพลังงาน และเชื้อเพลิงทางเลือก จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถลดการปล่อยมลพิษได้ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขัน

Chris Poynter ประธานฝ่ายระบบขับเคลื่อนของ ABB Motion กล่าวว่า — “รายงานของ ABB และ Fraunhofer แสดงให้เห็นว่าเส้นทางสู่การปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์นั้นไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์อีกด้วย การลดการปล่อยคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรมจะช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และทำให้บริษัทต่างๆ มีความก้าวล้ำในด้านนวัตกรรมที่ยั่งยืน ซึ่งการนำวิธีการทางไฟฟ้ามาใช้ ทั้งมอเตอร์และไดรฟ์แบบประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีทางเลือก จะทำให้อุตสาหกรรมต่างๆ สามารถลดการปล่อยมลพิษไปพร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจากการดำเนินงาน ซึ่งผลการวิจัยตามรายงานนั้น เราสามารถช่วยให้ภาคส่วนอุตสาหกรรมต่างๆ ก้าวไปสู่ความประหยัดและความสะอาดได้ยิ่งขึ้น”

Dr. Markus Kröll หัวหน้าฝ่ายธุรกิจด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการผลิตที่เป็นกลางทางคาร์บอนของ Fraunhofer IPA กล่าวเสริมว่า — “ในการวิเคราะห์ของเรา ได้ระบุกระบวนการที่มีการปล่อยมลพิษสูงสุดในแต่ละภาคอุตสาหกรรม จากนั้นจึงระบุเทคโนโลยีที่สามารถบรรเทาผลกระทบดังกล่าวได้ โดยมุ่งเน้นในส่วนที่เป็นวิธีการหลัก ได้แก่ การเปลี่ยนกระบวนการเป็นแบบไฟฟ้า ความร้อน การดักจับคาร์บอน และไฮโดรเจน ซึ่งไม่มีวิธีการใดที่แก้ปัญหาการลดการปล่อยคาร์บอนได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็มีวิธีที่พร้อมใช้งาน ซึ่งรายงานนี้จะช่วยให้ผู้นำทางธุรกิจสามารถตัดสินใจเลือกแนวทางที่ดีที่สุดได้ง่ายขึ้น”

ที่มา: ABB Motion

About pawarit

Check Also

ABB ผนึกกำลัง Samsung Electronics ยกระดับการจัดการพลังงานในอาคารด้วย SmartThings

ABB และ Samsung Electronics ประกาศความร่วมมือต่อเนื่อง โดยจะผสานรวมระบบจัดการพลังงาน InSite ของ ABB เข้ากับแพลตฟอร์ม SmartThings และ SmartThings Pro ของ …

ABB จับมือ Sage Geosystems พัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ

ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ ABB สนับสนุนข้อตกลงของ Sage กับ Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ในการส่งพลังงานความร้อนใต้พิภพพื้นฐานสูงถึง 150 เมกะวัตต์ในพื้นที่ทางตะวันออกของเทือกเขาร็อกกีในสหรัฐอเมริกา คาดว่าโครงการระยะแรกจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2027