การฟื้นฟูการผลิตในสหรัฐฯ: ภาษีไม่ใช่คำตอบเดียว แต่ AI คือส่วนสำคัญ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาได้เผชิญกับกระแสเรียกร้องให้ฟื้นฟูการผลิตในประเทศ โดยมีแรงผลักดันจากปัจจัยหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์, ปัญหาห่วงโซ่อุปทานในช่วงการระบาดใหญ่ และความต้องการความยืดหยุ่นภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น เครื่องมือหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ในการขับเคลื่อนเรื่องนี้คือ ภาษี ซึ่งกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างมาก ผู้สนับสนุนมองว่าภาษีเป็นวิธีตรงไปตรงมาในการนำงานกลับคืนสู่ประเทศ ขณะที่ผู้คัดค้านมองว่าจะรบกวนการค้าและเพิ่มต้นทุนโดยไม่สามารถแก้ปัญหาหลักได้

อย่างไรก็ตาม บทความนี้ชี้ให้เห็นว่า การเสื่อมถอยของการผลิตในโลกตะวันตกอาจแทบไม่เกี่ยวข้องกับภาษีเลย แต่เป็นผลมาจาก พลังโครงสร้าง ที่กำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์อุตสาหกรรม

ความท้าทายของการผลิตและการจ้างผลิตนอกประเทศ

บทความแย้งว่าการผลิตในโลกตะวันตกไม่ได้เผชิญปัญหาเพราะขาดภาษี แต่เป็นเพราะโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยมีปัจจัยหลักคือ:

• ต้นทุน: เป็นเวลาหลายทศวรรษที่ประเทศตะวันตกจ้างการผลิตไปยังประเทศที่มีค่าแรงต่ำกว่า กฎระเบียบผ่อนปรนกว่า และแรงงานที่ปรับขนาดได้ เช่น จีน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีราคาแข่งขันสูง การใช้ภาษีเพียงเล็กน้อยจะไม่สามารถฟื้นฟูการผลิตที่ดำเนินมานานกว่า 30 ปีได้
• ความคาดหวังและทัศนคติ: ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ การทำงานในโรงงานถือเป็นเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง แต่ในโลกตะวันตก งานดังกล่าวถูกมองว่าเป็นงานที่ไม่มีอนาคต ผู้คนส่วนใหญ่มักถูกปลูกฝังให้เรียนสูงเพื่อหลีกเลี่ยงงานใช้แรงงาน ดังนั้นจึงมีคนจำนวนน้อยมากที่ต้องการทำงานเหล่านี้
• ช่องว่างความรู้: การผลิตจำนวนมากต้องการทักษะความรู้ด้านกระบวนการผลิต ประสิทธิภาพ การประสานงานห่วงโซ่อุปทาน และการควบคุมคุณภาพ ซึ่งทักษะเหล่านี้ถูกพัฒนาและสมบูรณ์แบบในตลาดต่างประเทศมานานหลายทศวรรษ การนำกลับมาด้วยนโยบายเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องยาก และในหลายกรณี ประเทศตะวันตกได้ลืมวิธีการผลิตสินค้าให้ได้ราคาถูกและในปริมาณมากแล้ว
• โลจิสติกส์และเงินทุน: การสร้างโรงงานต้องใช้เวลา ที่ดิน เครื่องจักร บุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรม การรับรอง และเงินจำนวนมหาศาล และแม้จะเตรียมพร้อมแล้ว ก็ยังต้องมีฐานลูกค้าที่ยินดีจ่ายเพิ่ม 30-50% สำหรับผลิตภัณฑ์เดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ยอมจ่าย

ดังนั้น การย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ (reshoring) แม้เป็นเป้าหมายที่ดี แต่ต้องทำด้วยความเข้าใจที่ชัดเจน โดยต้องอาศัย ระบบอัตโนมัติ การศึกษา การลงทุนเชิงกลยุทธ์ และความมุ่งมั่นระยะยาว ในการฟื้นฟูความเชี่ยวชาญที่สูญเสียไป เป็นความพยายามระยะยาวที่ใช้เวลาหลายรุ่นคน

NVIDIA กับการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในสหรัฐฯ

ในการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ NVIDIA ได้ประกาศว่าจะผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมมือกับบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Amkor และ Foxconn การผลิตชิป NVIDIA Blackwell ได้เริ่มขึ้นแล้วที่โรงงานแห่งใหม่ของ TSMC ในฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา และคาดว่าจะมีการผลิตจำนวนมากในอนาคต

Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่าการผลิตในประเทศครั้งนี้เป็นมากกว่าแค่การขยายกำลังการผลิต แต่สะท้อนถึงความจำเป็นเชิงกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นในการ สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในที่ที่มีความต้องการ โดยเน้นย้ำถึงการจัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ระหว่างศูนย์ข้อมูลและสายการผลิต

การตัดสินใจของ NVIDIA สอดคล้องกับเป้าหมายในการผลิตชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดพร้อมกับการลดความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการส่งออก GPU ศูนย์ข้อมูลไปยังประเทศจีน การผลิตชิปในท้องถิ่นไม่เพียงแต่สนับสนุนการปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างจุดยืนของบริษัทเกี่ยวกับ อำนาจอธิปไตยของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเชื่อมโยงกับการแข่งขัน AI ระดับชาติที่เพิ่มขึ้น

NVIDIA กำลังใช้เทคโนโลยีของตนเอง เช่น NVIDIA Omniverse ในการสร้างแฝดดิจิทัลของโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และใช้ หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (NVIDIA Isaac GR00T) ในการจัดการงานอัตโนมัติที่มีความแม่นยำ การผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานของสหรัฐฯ จะช่วยเสริมสร้างตำแหน่งของ NVIDIA ในตลาด และตอบสนองความต้องการโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่พุ่งสูงขึ้น

การเคลื่อนไหวของ NVIDIA พิสูจน์ว่าภาษีได้ผลจริงหรือ?

บทความโต้แย้งว่าการตัดสินใจของ NVIDIA ในการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในสหรัฐฯ ไม่ใช่ผลลัพธ์ของภาษีในยุคทรัมป์ แต่เป็นผลผลิตของ แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่คุกรุ่นมานานหลายปี และความจำเป็นที่แท้จริงสำหรับความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับแนวหน้า ไม่สามารถพลิกผันได้ในชั่วข้ามคืน

ภาษีโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีเหมารวม อาจส่งผลเสียต่อโครงการริเริ่มประเภทนี้ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันทั่วโลก การเก็บภาษีในหมวดหมู่ส่วนประกอบต่างๆ จะสร้างภาระทางเศรษฐกิจอย่างมาก

การเคลื่อนไหวของ NVIDIA น่าจะเป็นผลมาจาก ความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้นกับจีน และความเสี่ยงของการพึ่งพาภูมิภาคที่ไม่มั่นคงหรือเป็นปฏิปักษ์มากเกินไป ประกอบกับการควบคุมการส่งออกชิปขั้นสูงของสหรัฐฯ และการผลักดันที่กว้างขึ้นสำหรับ “อำนาจอธิปไตย AI” สิ่งเหล่านี้ทำให้การผลิตในประเทศน่าสนใจยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพราะภาษี แต่ถึงแม้จะมีภาษีก็ตาม

การที่ NVIDIA มาลงทุนครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในด้านการสร้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่ามันเป็นการฟื้นฟูการผลิตโดยรวม การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึง วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ การลดความเสี่ยง และการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี มากกว่าจะเป็นผลจากแรงผลักดันทางเศรษฐกิจแบบหยาบ ๆ อย่างภาษี

ที่มา : https://www.electropages.com/blog/2025/06/nvidia-manufacturing-supercomputers-us