กลยุทธ์ “Cloud First” ของ SAP ที่เน้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ บนเวอร์ชันคลาวด์ของ S/4HANA เป็นหลัก กำลังสร้างความท้าทายและการถกเถียงในโลก IT โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่ใช้หรือกำลังจะเปลี่ยนไปใช้ S/4HANA On-Premises แม้ SAP จะยืนยันว่ายังคงเป็น “Cloud First” แต่การจำกัดการติดตั้งในพื้นที่ทีละน้อยแสดงให้เห็นถึงการมุ่งเน้นที่โซลูชันบนคลาวด์มากขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลด้านอธิปไตยของข้อมูล, การปกป้องการลงทุน และความยืดหยุ่นในอนาคต

“Cloud First” หรือ “Cloud Only”: ทิศทางเชิงกลยุทธ์
“Cloud First” หมายถึงการพัฒนานวัตกรรมสำหรับคลาวด์เป็นหลัก แต่ยังมีตัวเลือก On-Premises ในขณะที่ “Cloud Only” หมายถึงฟังก์ชันการทำงานบนคลาวด์เท่านั้น การมุ่งเน้นที่คลาวด์เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก ค่าใช้จ่ายในการออกใบอนุญาต และความปลอดภัยของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรบริษัทในยุโรปที่อยู่ภายใต้ GDPR เนื่องจากโซลูชันจำนวนมากโฮสต์โดย Hyperscalers ที่มีสำนักงานใหญ่นอกสหภาพยุโรป
คลาวด์หรือ On-Premises: การเปรียบเทียบที่แตกต่าง
- On-Premises: ทำงานในศูนย์ข้อมูลขององค์กร ให้การควบคุมข้อมูลได้อย่างเต็มที่ มักเป็นผลจากการปรับแต่งและการลงทุนที่ใช้เวลาหลายปี
- คลาวด์: โฮสต์อยู่ใน Public Cloud (บริการมาตรฐาน ปรับขนาดได้ง่าย ปรับแต่งน้อยกว่า) หรือ Private Cloud (รวมข้อดีของคลาวด์เข้ากับการควบคุมและการปรับแต่งที่สูงขึ้น) Private Cloud แตกต่างจาก On-Premises เพียงเล็กน้อยและมีตัวเลือกการขยายและปรับแต่งที่คล้ายกัน
โมเดลไฮบริด กำลังมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในชุมชน SAP เนื่องจากช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อดีของทั้งสองโลกได้
Rise และ Grow: แพ็คเกจที่มีศักยภาพ
Rise with SAP และ Grow with SAP เป็นโครงสร้างสัญญาที่ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถรวมใบอนุญาต S/4HANA เข้ากับบริการเพิ่มเติม เช่น Integration Suite หรือ Analytics Cloud ซึ่งช่วยให้สามารถผสานรวมแอปพลิเคชันคลาวด์เข้ากับระบบ On-Premises ที่มีอยู่ SAP พยายามนำองค์กรต่างๆ เข้าสู่คลาวด์อย่างค่อยเป็นค่อยไป
โซลูชันการรวมระบบ: SAP Business Technology Platform (BTP)
SAP Business Technology Platform (BTP) เป็นกุญแจสำคัญสำหรับสถานการณ์ไฮบริด ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อโซลูชันคลาวด์ (เช่น Digital Manufacturing Cloud, Analytics Cloud) เข้ากับระบบ On-Premises ได้อย่างราบรื่นผ่านเทคโนโลยี เช่น SAP Cloud Connector สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า SAP กำลังสร้างสะพานเชื่อมระหว่างคลาวด์และ On-Premises อย่างตั้งใจ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านง่ายขึ้นสำหรับองค์กร
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีผ่านคลาวด์
คลาวด์ช่วยให้ SAP สามารถนำเสนอคุณสมบัติใหม่ ๆ ได้รวดเร็วขึ้นผ่านการอัปเดตแบบรวมศูนย์และเผยแพร่เป็นประจำ ในขณะที่ระบบ On-Premises จะช้ากว่า แต่ก็ยังสามารถได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผ่าน BTP เช่น การรวมเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทันสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI
โดยสรุปแล้ว แม้ SAP จะให้ความสำคัญกับคลาวด์ แต่โมเดลไฮบริดยังคงเป็นทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับหลายองค์กร