5 แนวโน้มมาแรงสำหรับอุตสาหกรรม AIoT ในปี 2025

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Hikvision ได้สำรวจแนวโน้มที่กำลังเปลี่ยนไปภายในกรอบภูมิทัศน์ด้านความมั่นคง แต่เนื่องจากเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น จึงปรับขยายเป้าหมายจากการรักษาความมั่นคงให้กับโลกของเรา ไปสู่การทำให้โลกมีความชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่ง AIoT (อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วย AI) กำลังเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรมให้อยู่เหนือกว่าความมั่นคง โดยในปีนี้ Hikvision จะมุ่งเจาะลึกตามแนวโน้มของการขับเคลื่อนด้วย AIoT ที่จะสามารถบอกได้ถึงการปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม และส่งเสริมอนาคตให้มีประสิทธิภาพ ความมั่นคง และยั่งยืนมากขึ้น

5 แนวโน้มสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม AIoT ในปี 2025

1. เทคโนโลยีการรับรู้กำลังปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและความต้องการตามสถานการณ์ที่หลากหลาย — เทคโนโลยีการรับรู้ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้งานมีประสิทธิภาพภายใต้เงื่อนไขที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี AI Image Signal Processing (AI-ISP) ได้กำหนดมาตรฐานที่สูงในด้านสมรรถนะของคุณภาพของภาพในสภาพที่มีแสงน้อย โดยสามารถลดการรบกวนในภาพ และแก้ไขภาพเบลออันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากสเปกตรัมแสงที่มองเห็นได้แล้ว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตรทำให้มองทะลุผ่านควัน ฝุ่น และสิ่งกีดขวางได้ จึงสามารถวัดความเร็วและทิศทางได้อย่างแม่นยำ วิธีการนี้ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในการจัดการด้านจราจร ส่วนในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีเสียงดังและรุนแรงจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง การตรวจจับคลื่นเสียงจะทำให้สามารถเฝ้าตรวจสอบอุปกรณ์โดยไม่ต้องรุกล้ำเข้าไปเพื่อตรวจจับข้อผิดพร่องได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มแรก จึงช่วยลดช่วงเวลาหยุดทำงานนอกแผน

2. AIoT กำลังนำการเป็นดิจิทัลมาสู่การใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรม — บริษัทต่างๆ กำลังนำเทคโนโลยี AIoT มาใช้กันมากขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายในการดำเนินงานแบบเฉพาะเจาะจงและเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล อย่างในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งการป้องกันการสูญเสียและการรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยปัจจุบัน อุปกรณ์ AIoT สามารถให้ข้อมูลที่มีค่า เช่น การติดตามสินค้าคงคลัง จำนวนผู้เดินเท้า ความยาวของคิว และความหนาแน่นของพื้นที่ ในขณะเดียวกัน ในภาคพลังงาน ความปลอดภัยเป็นข้อกำหนดที่ไม่สามารถต่อรองได้ ซึ่งวิธีการทางด้าน AIoT อย่างเช่น การตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ถูกทำให้เป็นแบบอัตโนมัติ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีการใช้ AI เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่เหมาะสม ลดการดูแลแบบแมนวล และเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน

ยิ่งไปกว่านั้น การพัฒนาโมเดลการมองเห็นขนาดใหญ่ เสียง และไฟเบอร์ออปติก กำลังถูกปรับแต่งด้วยการออกแบบเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม การปรับอัลกอริทึมให้เหมาะสม และการทำให้โมเดลเรียบง่ายขึ้น แนวโน้มนี้มุ่งไปที่การสร้างสรรค์การใช้งาน AIoT ที่มีน้ำหนักเบาและใช้เฉพาะตามแนวตั้ง โดยที่สามารถใช้งานได้จริงและมีประสิทธิผลในฉากทัศน์ในโลกแห่งความเป็นจริง

3. มีนัยสำคัญต่อการมุ่งสู่ระบบนิเวศแบบเปิดและร่วมมือกัน — เนื่องจากความต้องการใช้ AIoT เฉพาะฉากทัศน์ในอุตสาหกรรมได้ถูกแยกเป็นส่วนๆ มากขึ้น จึงไม่มีบริษัทใดบริษัทหนึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง แพลตฟอร์มและเครื่องมือแบบเปิดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ให้บริการสามารถผสานรวมการใช้งานของบุคคลที่สามได้อย่างราบรื่นเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่างๆ

สภาพแวดล้อมแบบร่วมมือกันนี้จะช่วยให้นักพัฒนาและผู้รวมระบบสามารถสร้างวิธีการทาง AIoT ที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิผล ซึ่งแพลตฟอร์มการฝึก AI ที่ใช้ได้ง่ายกำลังแพร่หลาย ช่วยให้ผู้รวมระบบที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญสามารถฝึกและปรับใช้โมเดล AI ที่กำหนดตามแบบเฉพาะของตนเองได้

4. สร้างความเชื่อมั่นด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ผ่านกลยุทธ์เชิงรุกและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม — ความมั่นคงทางไซเบอร์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญในภูมิทัศน์ของ AIoT ที่กำลังขยายตัว บริษัทต่างๆ หันมาใช้แนวทางความมั่นคงทางไซเบอร์ในเชิงรุกมากขึ้น โดยที่สามารถตอบสนองได้ทันท่วงที โดยเน้นไปที่การตรวจจับภัยคุกคามอย่างรวดเร็วและการตอบสนองที่มีประสิทธิผล

ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเป็นกุญแจสำคัญของแนวโน้มนี้ โดยผู้ติดตั้ง ผู้รวมระบบ และลูกค้า ต่างทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าการปรับใช้และการใช้งานมีความมั่นคง ส่งผลให้กรอบการทำงานมีความยืดหยุ่นและเชื่อถือได้มากขึ้น

5. AIoT กำลังกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่จะมาเปลี่ยนเกมเพื่อความยั่งยืน — องค์กรต่างๆ ทั่วโลกกำลังมองหาวิธีที่ยั่งยืนมากขึ้นในการดำเนินงานและดำเนินธุรกิจ และหลายๆ แห่งหันมาใช้เทคโนโลยี AIoT ด้วยการเพิ่มเซนเซอร์ที่มีการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดยใช้อัลกอริทึม AI ซึ่ง AIoT จะช่วยปรับการใช้ทรัพยากรให้มีความเหมาะสม ลดการใช้พลังงาน ปรับปรุงการจัดการขยะ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในอุตสาหกรรมต่างๆ

ตัวอย่างเช่น ในการจัดการอาคาร ระบบ AIoT ถูกนำมาใช้เพื่อปรับการใช้พลังงานโดยอัตโนมัติตามการใช้งานและสภาพอากาศ ส่งผลให้ประหยัดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญและลดการปล่อยคาร์บอน

ที่มา: Hikvision Digital Technology

About pawarit

Check Also

Intel ประกาศยุติธุรกิจยานยนต์ เลิกจ้างพนักงานส่วนใหญ่ มุ่งเน้นธุรกิจหลักและ AI

Intel บริษัทผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศยุติธุรกิจยานยนต์ โดยจะ ปิดแผนกยานยนต์และเลิกจ้างพนักงานส่วนใหญ่ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ภายใต้การนำของซีอีโอคนใหม่ Lip-Bu Tan ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อรายได้ที่ลดลงและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น

SHINING 3D เปิดตัว “EinScan Rigil” เครื่องสแกน 3 มิติ Tri-Mode รุ่นแรกของโลก

SHINING 3D ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสแกน 3 มิติระดับ Metrology-grade ได้ประกาศเปิดตัว EinScan Rigil เครื่องสแกน 3 มิติ Tri-Mode รุ่นแรกของโลกที่มาพร้อม การประมวลผลในตัว, …