ทรัมป์ ย้ำหนักแน่น! สหรัฐฯ ผลิต iPhone ได้สบายบรื๋อ แต่ผู้เชี่ยวชาญส่ายหน้า

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเชื่อมั่นอย่างหนักแน่นว่า การผลิต iPhone ในสหรัฐอเมริกานั้นเป็นไปได้แน่นอน โดยอ้างว่าประเทศมีทรัพยากรและแรงงานเพียงพอที่จะทำให้เกิดขึ้นจริงได้

คารีน เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนประจำทำเนียบขาว ได้ออกมาตอกย้ำมุมมองของทรัมป์เกี่ยวกับ “iPhone ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา” เมื่อวันอังคารที่ 8 เม.ย. ผ่านมา โดยเน้นย้ำว่าอุปกรณ์ไฮเทคอย่าง iPhone สามารถผลิตในสหรัฐฯ ได้จริง หากการผลิตย้ายกลับมาในประเทศ “แน่นอนค่ะ ท่านประธานาธิบดีเชื่อว่าเรามีแรงงาน กำลังคน และทรัพยากรเพียงพอที่จะทำได้” เลวิตต์ตอบคำถามว่าทรัมป์เชื่อหรือไม่ว่าในที่สุดการผลิต iPhone จะย้ายมายังสหรัฐฯ

เพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของเธอ เลวิตต์กล่าวว่า Apple คงไม่ลงทุนถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ หากพวกเขาเชื่อว่าการผลิต iPhone ในประเทศนั้นเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง การลงทุน 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เลวิตต์อ้างถึงนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต iPhone ในประเทศเลยแม้แต่น้อย ก่อนหน้านี้ในปีนี้ Apple ได้ประกาศว่าจะใช้เงิน 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ จ้างงาน 20,000 ตำแหน่งในสหรัฐฯ ในอีก 4 ปีข้างหน้า และสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเท็กซัสเพื่อพัฒนาโครงการริเริ่มด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)

“เราเชื่อมั่นในอนาคตของนวัตกรรมอเมริกัน และเราภูมิใจที่ได้ต่อยอดการลงทุนในสหรัฐฯ ที่มีมายาวนานของเราด้วยคำมั่นสัญญา 500,000 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯนี้ เพื่ออนาคตของประเทศเราทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple กล่าวในแถลงการณ์

แต่ Apple ก็เคยลงทุนในลักษณะนี้มาแล้ว เช่น การสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ มูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2561 ในช่วงวาระแรกของทรัมป์ บริษัทได้ดำเนินการคล้ายกันในปี พ.ศ. 2564 เมื่อประกาศแผนการลงทุนในประเทศ 430,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 5 ปีข้างหน้าในสมัยรัฐบาลไบเดน

ในขณะที่รัฐบาลทรัมป์ต้องการอย่างยิ่งที่จะนำการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงกลับมายังสหรัฐฯ จากจีน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการผลิต iPhone ในสหรัฐฯ นั้นไม่สามารถทำได้จริง ทั้งในแง่ของเงินทุนและเนื่องจากขาดความเชี่ยวชาญในสหรัฐฯ

ในช่วงวาระแรกของเขา ทรัมป์ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ผลิตในสหรัฐฯ แต่ Apple ก็ไม่ได้ย้ายฐานการผลิต iPhone มายังสหรัฐฯ ปัจจุบัน Apple ว่าจ้าง Foxconn และ Luxshare ให้ผลิต iPhone โดย 90% ของ iPhone ผลิตในจีน

ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ได้เคยกล่าวเป็นนัยหลายครั้งถึงเหตุผลว่าทำไมการผลิต iPhone ในสหรัฐฯ จึงเป็นไปไม่ได้ ในงาน Fortune Global Forum ที่กว่างโจวในปี พ.ศ. 2560 คุกอธิบายว่าทำไม Apple ยังคงให้ความสำคัญกับจีนเป็นฐานการผลิต iPhone หลัก

“มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจีน ความเชื่อที่นิยมคือบริษัทต่าง ๆ มาจีนเพราะค่าแรงต่ำ ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขากำลังพูดถึงส่วนไหนของจีน แต่ความจริงคือจีนเลิกเป็นประเทศที่มีค่าแรงต่ำมาหลายปีแล้ว และนั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะมาจีนจากมุมมองด้านซัพพลายเชน เหตุผลคือทักษะ และปริมาณทักษะในที่เดียว และประเภทของทักษะนั้น”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศภาษีใหม่ครั้งใหญ่สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากประเทศส่วนใหญ่เข้าสู่สหรัฐฯ โดยมีอัตราที่สูงขึ้นสำหรับสิ่งที่เขาเรียกว่า “ผู้กระทำผิดที่เลวร้ายที่สุด” ซึ่งรวมถึงภาษี 34% สำหรับจีน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน ทรัมป์ยังได้เพิ่มภาษีอีก 50% สำหรับจีน หลังจากที่จีนประกาศภาษีตอบโต้ เมื่อวันอังคาร ทำเนียบขาวระบุว่าอัตราภาษี 104% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน

“ท่านประธานาธิบดีต้องการเพิ่มงานด้านการผลิตที่นี่ในสหรัฐอเมริกา” เลวิตต์กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร ที่ 8 เม.ย. “แต่เขายังมองไปที่เทคโนโลยีขั้นสูง เขายังมองไปที่ AI และสาขาที่กำลังเติบโตทั่วโลก ซึ่งสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องเป็นผู้นำด้วยเช่นกัน”

Apple ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการประกาศภาษีของทรัมป์ หุ้นของ Apple ร่วงลงเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ และแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกที่ซบเซา เนื่องจาก Apple ผลิตฮาร์ดแวร์ส่วนใหญ่ในเอเชีย บริษัทจึงมีความเสี่ยงมากที่สุดต่อภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ

เพื่อรับมือกับสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้น Apple ได้ย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังอินเดียและเวียดนามแล้ว แต่ประเทศเหล่านั้นก็เผชิญกับอัตราภาษี 26% และ 46% ตามลำดับ จีนมีความสำคัญต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Apple อย่างน้อยในระยะยาว ไม่เพียงแต่ในฐานะศูนย์กลางการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านการขายด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้น Apple อาจมองอินเดียเป็นทางเลือกอื่นในการจัดหา iPhone เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว Apple มีแนวโน้มที่จะผลิต iPhone 25 ล้านเครื่องในอินเดียในปีนี้ โดย 10 ล้านเครื่องสำหรับตลาดในประเทศ วอลล์สตรีท เจอร์นัล อ้างคำกล่าวของนักวิเคราะห์จาก Bank of America, Wamsi Mohan เขากล่าวเสริมว่า หาก Apple ตัดสินใจนำเข้า iPhone ทั้ง 25 ล้านเครื่องไปยังสหรัฐฯ ก็จะสามารถตอบสนองความต้องการในสหรัฐฯ ได้ประมาณ 50%

ทรัมป์ได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าบริษัทต่าง ๆ เช่น Apple สามารถประหยัดเงินและหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีได้โดยการผลิตในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเนื่องจากต้นทุนแรงงานในสหรัฐฯ สูงกว่าในจีนหรืออินเดีย การผลิต iPhone ในสหรัฐฯ จึงไม่สามารถทำได้จริง มีการกล่าวกันว่า Apple จะต้องใช้เวลา 3 ปีและเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อย้ายห่วงโซ่อุปทานเพียง 10% จากเอเชียไปยังสหรัฐฯ

ที่มา : https://indianexpress.com/article/technology/mobile-tabs/iphone-manufacturing-could-move-to-us-9933296/ และ https://www.macrumors.com/2025/04/08/trump-apple-us-iphone-manufacturing/

About pawarit

Check Also

อินเดียเปิดเกมรุก! ดึงดูดซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน Apple ตั้งฐานผลิต หวังผงาดเป็นศูนย์กลางอิเล็กทรอนิกส์โลก

ย้อนกลับไปในวันที่หลายคนยังคงเคลือบแคลงในศักยภาพของอินเดียที่จะกลายเป็นตลาดสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Apple คงไม่มีใครคาดคิดว่า 25% ของ iPhone ที่ผลิตทั่วโลกจะมาจากอินเดีย แม้ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดในประเทศเติบโตในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกก็ตาม

ภาษีทรัมป์ทำพิษ! โรงงานจีนอ่วม ออเดอร์สหรัฐฯ ร่วง หวั่นธุรกิจไม่หวนคืน

บรรดาผู้ผลิตในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตขนาดใหญ่ที่ผลิตสินค้าหลากหลายตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างออกมาเปิดเผยกับสำนักข่าว AFP ว่า คำสั่งซื้อจากโรงงานได้ลดลงอย่างมาก อันเป็นผลมาจากภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้เรียกเก็บในอัตราที่สูงลิ่วต่อสินค้าจีน โดยบางรายถึงกับหวาดกลัวว่าธุรกิจอาจไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อีก