อุตสาหกรรมยานยนต์ก้าวสู่ยุค 5.0: ผสานเทคโนโลยีและหัวใจมนุษย์ สร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน

อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีแล้ว อุตสาหกรรม 5.0 ยังเป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดเชิงปรัชญาในการมองอุตสาหกรรมการผลิต โดยเรียกร้องให้ผู้ผลิตยานยนต์ผสมผสานนวัตกรรมเข้ากับความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ ประสิทธิภาพควบคู่ไปกับความยั่งยืน และความแม่นยำเข้ากับความคิดสร้างสรรค์

เช่นเดียวกับผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ผู้ผลิตยานยนต์เริ่มตระหนักถึงหลักการของอุตสาหกรรม 5.0 หลังจากที่ อุตสาหกรรม 4.0 ได้ปฏิวัติวิธีการผลิตยานยนต์ด้วยระบบอัตโนมัติ, IoT (Internet of Things) และการวิเคราะห์ข้อมูลบนสายการประกอบ อุตสาหกรรม 5.0 ได้นำ “สัมผัสของมนุษย์” กลับคืนมา โดยเน้นที่ความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร การผลิตที่ยั่งยืน และความสามารถในการฟื้นตัวจากความท้าทายต่าง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรม 5.0 เปลี่ยนจุดเน้นจากการทำให้โรงงาน “ฉลาด” ขึ้น ไปสู่การทำให้โรงงานมี “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” มากยิ่งขึ้น เป็นการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์อันเป็นเลิศของมนุษย์เข้ากับความแม่นยำของเครื่องจักรอัจฉริยะ สำหรับผู้ผลิตยานยนต์ นี่หมายถึงรูปแบบการผลิตที่ปรับเปลี่ยนได้มากขึ้นเพื่อรองรับการออกแบบตามความต้องการของลูกค้า ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมในด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น และมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในการเผชิญกับความผันผวนระดับโลก

ในขณะที่อุตสาหกรรม 4.0 มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อเครื่องจักรและการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็วและต้นทุน อุตสาหกรรม 5.0 ท้าทายให้ผู้ผลิตยานยนต์ถามคำถามสำคัญว่า “เทคโนโลยีจะช่วยเสริมศักยภาพของมนุษย์ได้อย่างไร?” และ “ผู้ผลิตยานยนต์จะสร้างคุณค่าที่นอกเหนือไปจากประสิทธิภาพได้อย่างไร?”

ผลประโยชน์ที่จับต้องได้ของอุตสาหกรรม 5.0

ผู้ผลิตยานยนต์ที่มองการณ์ไกลบางรายได้เริ่มนำร่องโครงการริเริ่มที่ใช้อุตสาหกรรม 5.0 และผลประโยชน์ที่ได้รับก็เริ่มปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน

  • การปรับแต่งยานยนต์เฉพาะบุคคลขั้นสูง: ด้วยความร่วมมือระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรที่มากขึ้นภายใต้อุตสาหกรรม 5.0 ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตยานยนต์ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียดโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพในการผลิต ลูกค้าสามารถปรับแต่งภายใน เลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน หรือกำหนดคุณสมบัติการขับขี่ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • ความพึงพอใจของพนักงานที่เพิ่มขึ้น: อุตสาหกรรม 5.0 ไม่ได้เข้ามาแทนที่พนักงาน แต่เป็นการเสริมศักยภาพให้พวกเขา คะแนนความพึงพอใจของพนักงานสูงขึ้นในโรงงานที่ใช้หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน (“โคบอท”) เพื่อช่วยในงานที่ต้องใช้ความแม่นยำ พนักงานรู้สึกปลอดภัย มีคุณค่า และมีส่วนร่วมมากขึ้นเมื่อเครื่องจักรรับหน้าที่ทำงานซ้ำซาก ทำให้มนุษย์มีเวลามากขึ้นสำหรับบทบาทที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทวีความสำคัญมากขึ้นเมื่อผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานและทักษะ
  • ความสามารถในการฟื้นตัวต่อสภาวะชะงักงัน: การผสมผสานระบบอัตโนมัติเข้ากับความสามารถในการปรับตัวของมนุษย์ ทำให้อุตสาหกรรม 5.0 สัญญาว่าจะมอบความยืดหยุ่นในการรับมือกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด ตั้งแต่ปัญหาห่วงโซ่อุปทานไปจนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ การกำกับดูแลของมนุษย์ยังช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นในจุดที่ระบบอัตโนมัติเพียงอย่างเดียวอาจล้มเหลว
  • ประโยชน์ด้านความยั่งยืน: ผู้ผลิตยานยนต์สามารถบูรณาการหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้าสู่กระบวนการผลิตได้ เช่น การรีไซเคิลวัสดุ การออกแบบเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และการลดของเสีย

อุปสรรคทางเทคนิคที่ต้องก้าวข้าม

การเปลี่ยนผ่านจากอุตสาหกรรม 4.0 ไปสู่ 5.0 ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ผลิตยานยนต์ต้องเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญหลายประการ

  • การบูรณาการระบบมนุษย์และเครื่องจักร: ระบบการผลิตในปัจจุบันได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับระบบอัตโนมัติเป็นหลัก การปรับปรุงระบบเหล่านี้เพื่อให้เกิดความร่วมมือแบบไดนามิกระหว่างพนักงานและหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จำเป็นต้องมีการลงทุนจำนวนมากในการออกแบบระบบ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และประสบการณ์ผู้ใช้
  • ความซับซ้อนและการจัดการข้อมูล: เมื่อเครื่องจักรและมนุษย์ทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น ปริมาณและความซับซ้อนของข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ผู้ผลิตยานยนต์ต้องการแพลตฟอร์มข้อมูลขั้นสูงที่สามารถรองรับการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ การประมวลผลแบบ Edge Computing และการอนุมาน AI ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการรับประกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทางไซเบอร์
  • ช่องว่างด้านทักษะของบุคลากร: พนักงานจำเป็นต้องพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้สามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม 5.0 พวกเขาต้องการทักษะที่หลากหลาย ตั้งแต่การเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ขั้นพื้นฐานไปจนถึงความเข้าใจวิธีการใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ AI การฝึกอบรมบุคลากรใหม่ถือเป็นลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ แต่ต้องใช้เวลา ทรัพยากร และการจัดการที่รอบคอบ
  • การสร้างสมดุลระหว่างระบบอัตโนมัติและคุณค่าของมนุษย์: ผู้ผลิตยานยนต์ต้องสร้างความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างระบบอัตโนมัติและคุณค่าของมนุษย์ พวกเขาต้องมั่นใจว่าเทคโนโลยีจะช่วยเสริมสร้างมากกว่าที่จะเข้ามาแทนที่ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ การใช้ระบบอัตโนมัติมากเกินไปอาจบ่อนทำลายผลประโยชน์ที่อุตสาหกรรม 5.0 สัญญาไว้

เทคโนโลยีที่เป็นรากฐานสู่อุตสาหกรรม 5.0

การเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม 5.0 ต้องการโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีใหม่ที่สนับสนุนความร่วมมือ ความชาญฉลาด และความสามารถในการปรับตัวที่มากขึ้น เทคโนโลยีสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ได้แก่:

  • หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงาน (Cobots): โคบอทมีความปลอดภัย ฉลาดขึ้น และได้รับการออกแบบมาให้ทำงานเคียงข้างมนุษย์ ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ ระบบการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ และวงจรป้อนกลับแบบเรียลไทม์ ทำให้โคบอทสามารถปรับตัวเข้ากับการกระทำของมนุษย์ได้ทันที
  • ปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิง (AI & ML): AI มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ กระบวนการผลิตแบบปรับตัว และการปรับแต่งเฉพาะบุคคลในวงกว้าง โมเดลแมชชีนเลิร์นนิงต้องพัฒนาจากสคริปต์อัตโนมัติที่ตายตัวไปสู่ระบบการเรียนรู้ด้วยตนเองที่ยืดหยุ่นและตอบสนองต่อการป้อนข้อมูลของมนุษย์
  • Edge Computing: เพื่อสนับสนุนความร่วมมือแบบเรียลไทม์ระหว่างมนุษย์และเครื่องจักร การตัดสินใจจำเป็นต้องเกิดขึ้นที่ขอบเครือข่าย หรือ ณ พื้นที่โรงงาน แทนที่จะพึ่งพาระบบคลาวด์ส่วนกลางเพียงอย่างเดียว
  • Digital Twins: เทคโนโลยีดิจิทัลทวินช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์สามารถจำลอง ตรวจสอบ และปรับปรุงปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการดำเนินงานจริง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมแบบวนซ้ำและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
  • แพลตฟอร์มการผลิตที่ยั่งยืน: เครื่องมือซอฟต์แวร์ที่วัดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปรับปรุงการใช้พลังงาน และจัดการความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานกำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงาน เครื่องมือเหล่านี้จำเป็นต้องบูรณาการเข้ากับสภาพแวดล้อมการผลิตได้อย่างราบรื่น

เส้นทางสู่อนาคต

อุตสาหกรรม 5.0 เป็นมากกว่าการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดเชิงปรัชญาในการมองอุตสาหกรรมการผลิต โดยเรียกร้องให้ผู้ผลิตยานยนต์ผสมผสานนวัตกรรมเข้ากับความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ ประสิทธิภาพควบคู่ไปกับความยั่งยืน และความแม่นยำเข้ากับความคิดสร้างสรรค์

ที่มา : https://www.rtinsights.com/driving-toward-industry-5-0-an-automotive-manufacturing-perspective/

About pawarit

Check Also

เด็กซ์ซอนเปิดตัวเทคโนโลยี PA-CAT™นวัตกรรมปฏิวัติการตรวจสอบการสึกกร่อนที่บริเวณจุดค้ำยันท่อส่งปิโตรเลียม

บริษัท เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ DEXON บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ให้บริการการตรวจสอบความสมบูรณ์ของโครงสร้างในอุตสาหกรรมพลังงาน และการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย (NDT) เปิดตัวเทคโนโลยี PA-CAT™ ระบบตรวจสอบความเสียหายจากการสึกกร่อนใต้จุดค้ำยันท่อ (Corrosion Under …

JD Logistics เปิดตัวกล่องควบคุมอุณหภูมิแบบใช้ซ้ำ 500,000 ใบ ก้าวสำคัญสู่โลจิสติกส์สีเขียว

เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก (5 มิถุนายน) และวาระครบรอบ 8 ปีของโครงการ “Green Stream Initiative” JD Logistics (JINGDONG Logistics) ได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญด้วยการนำ กล่องควบคุมอุณหภูมิแบบใช้ซ้ำสำหรับสินค้าสดใหม่จำนวน …