ความร่วมมือที่ขยายออกไปอาจหมายความว่า Toyota จะจัดหาส่วนประกอบสำคัญเพิ่มเติมสำหรับยานพาหนะให้กับ BMW รวมถึงถังไฮโดรเจนและระบบเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งปัจจุบัน Toyota ได้จัดหาเซลล์เชื้อเพลิงให้ BMW อยู่แล้ว ตามรายงาน ความร่วมมือดังกล่าวอาจประกาศในงานแถลงข่าวของ BMW ในวันที่ 5 กันยายน หากได้รับการยืนยัน BMW จะสามารถลดต้นทุนการพัฒนาได้โดยการนำระบบเซลล์เชื้อเพลิงของ Toyota มาใช้ทั้งหมด

ทั้ง Toyota และ BMW ได้ทำงานร่วมกันในการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงมาตั้งแต่ปี 2012 และได้ต่ออายุข้อตกลงไปแล้วเมื่อปี 2023 โดย BMW พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงที่มุ่งเน้นส่วนประกอบต่าง ๆ และการบูรณาการระบบโดยรวมเข้ากับรถยนต์สำหรับรถยนต์มานานหลายปี แต่รับเซลล์เชื้อเพลิงมาจาก Toyota
จนถึงขณะนี้ BMW ได้นำรถยนต์รุ่นสาธิต iX5 Hydrogen ออกสู่ท้องแล้ว ตามรายงานก่อนหน้านี้จากแหล่งข่าวท้องถิ่นของเยอรมนี X6 และ X7 สองรุ่นพี่น้องอาจมาพร้อมเซลล์เชื้อเพลิงประมาณปี 2027 อย่างไรก็ตาม ในการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ทาง BMW ได้ชี้แจงว่าแพลตฟอร์มใหม่จะเป็น “BEV เท่านั้น”
สุดท้ายแล้ว ยังคงต้องรอดูต่อไปว่า ความร่วมมือนี้จะมีความหมายอย่างไรในระยะยาว ปัจจุบันนี้ รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงหายากและมีราคาแพงเกินไป ซึ่ง Toyota ได้ขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบผสม (FCEV) ของตัวเองอย่าง Toyota Mirai และราคาของเซลล์เชื้อเพลิงก็ได้พุ่งขึ้นไปแตะที่ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อกิโลกรัม และราคาในเยอรมนีก็ค่อนข้างสูง นั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่โตโยต้าขายรถยนต์ Mirai ได้เพียง 22,000 คันทั่วโลกตั้งแต่ปี 2014 ที่เริ่มนำออกสู่ท้องถนน
ที่มา : https://www.electrive.com/2024/08/29/bmw-and-toyota-to-extend-fuel-cell-alliance/