สงครามชิปปะทุ! สหรัฐฯ สั่งแบน 140 บริษัทจีน จีนสวนกลับ ห้ามส่งออกแร่ธาตุสำคัญ

สถานการณ์การแข่งขันเพื่อความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมชิปทวีความตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการจำกัดใหม่ เล็งเป้าไปที่บริษัทจีนถึง 140 แห่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อชะลอความก้าวหน้าของจีนในด้านยุทธศาสตร์ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการใช้งานทางทหาร ซึ่งมาตรการนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนหลายแห่ง รวมถึง Naura Technology Group, Piotech และ SiCarrier Technology

เพียงหนึ่งวันให้หลัง จีนตอบโต้มาตรการดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ด้วยการประกาศห้ามส่งออกวัตถุดิบสำคัญ เช่น แกลเลียม เจอร์เมเนียม และพลวง ไปยังสหรัฐอเมริกา แร่ธาตุเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงการใช้งานทางทหารและเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ การห้ามส่งออกนี้อาจสร้างภาระอย่างหนักให้กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และแสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

มาตรการเข้มกระทบอุตสาหกรรมไฮเทคจีนในวงกว้าง

กฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลไบเดนเน้นไปที่การจำกัดการส่งออกชิปหน่วยความจำขั้นสูงและเครื่องมือการผลิตชิป เทคโนโลยีเหล่านี้มีความสำคัญต่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงที่ใช้ในหลากหลายแอปพลิเคชัน เช่น รถยนต์ไร้คนขับ ระบบจดจำเสียง เทคโนโลยีการเฝ้าระวัง รวมถึงอุปกรณ์ทางทหาร เช่น ระบบเล็งเป้าและเรดาร์ มาตรการสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มชื่อบริษัทจีน 23 แห่งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเทคโนโลยี Huawei เข้าไปใน “Entity List” ซึ่งบริษัทที่อยู่ในรายชื่อนี้จะถูกห้ามไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อย่างเข้มงวด ทำให้การดำเนินธุรกิจของพวกเขามีข้อจำกัดอย่างมาก

นอกจากนี้ การขนส่งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดก็จะถูกจำกัด บริษัทต่าง ๆ เช่น ASML ผู้ผลิตเครื่อง Lithography สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ถูกห้ามไม่ให้ส่งออกเครื่องจักรขั้นสูงไปยังจีนแล้ว อันเนื่องมาจากมาตรการก่อนหน้านี้ของสหรัฐฯ ขณะนี้ แรงกดดันกำลังเพิ่มขึ้นต่อพันธมิตรระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ให้ดำเนินการหรือเข้มงวดมาตรการที่คล้ายคลึงกัน

จีนวิจารณ์แต่ยังคงมั่นใจ

จีนตอบโต้มาตรการใหม่ของสหรัฐฯ อย่างรุนแรง โดยเรียกมาตรการเหล่านี้ว่าเป็น “การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ” และเป็นการพยายามขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีของจีนอย่างจงใจ ปักกิ่งเน้นย้ำว่าสหรัฐฯ กำลังละเมิดบรรทัดฐานการค้าระหว่างประเทศและใช้แรงกดดันที่ไม่สมเหตุสมผล การตัดสินใจห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม และพลวง ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาการแปรรูปแร่ธาตุเหล่านี้ นักวิเคราะห์เตือนว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกปั่นป่วนอย่างรุนแรง

ในขณะเดียวกัน บริษัทจีนกำลังพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ผู้ผลิต เช่น Jiangsu Nata Opto-Electronic Material และ Empyrean กล่าวว่าพวกเขามีสินค้าคงคลังเพียงพอและกำลังพึ่งพาทางเลือกภายในประเทศในห่วงโซ่อุปทาน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเหล่านี้อาจไม่เพียงพอในระยะกลางที่จะปิดช่องว่างทางเทคโนโลยีที่เกิดจากข้อจำกัดใหม่ บริษัทชิปของจีนที่ได้รับผลกระทบแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถเปลี่ยนไปใช้ห่วงโซ่อุปทานในประเทศได้รวดเร็วขึ้น

ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์: ไม่ใช่ทุกชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่เข้าร่วม

สหรัฐฯ กำลังพยายามดึงพันธมิตรระหว่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ และไต้หวัน เข้าร่วมมาตรการของตน ประเทศเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และสามารถเพิ่มแรงกดดันต่อจีนผ่านการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นในบางกรณี ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้แสดงท่าทีว่าจะไม่ดำเนินการตามมาตรการทั้งหมดของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ ประเทศอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้และไต้หวัน อยู่ภายใต้กฎระเบียบเฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน

มาตรการที่เข้มข้นขึ้นของสหรัฐฯ ตอกย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในโครงสร้างอำนาจโลก เซมิคอนดักเตอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็น “น้ำมันใหม่” ของเศรษฐกิจยุคใหม่ เนื่องจากเป็นรากฐานของเทคโนโลยีดิจิทัลเกือบทั้งหมด

แนวโน้ม: พันธมิตรใหม่ ภูมิทัศน์เทคโนโลยีที่แตกแขนง

ผลกระทบระยะยาวของการควบคุมการส่งออกใหม่ของสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน สถานการณ์ที่เป็นไปได้มีตั้งแต่การแยกตัวของห่วงโซ่อุปทานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้ภูมิทัศน์ทางเทคโนโลยีแตกแขนง ไปจนถึงการแข่งขันด้านนวัตกรรมที่นำมาซึ่งพันธมิตรใหม่ ๆ ในขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าบริษัทจีนบางแห่งอาจสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนในระยะสั้นผ่านสินค้าคงคลังและโซลูชันในท้องถิ่นได้ แต่แรงกดดันที่ต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ในขณะเดียวกัน พันธมิตรใหม่ๆ อาจก่อตัวขึ้นในภูมิทัศน์เทคโนโลยีโลก เนื่องจากประเทศและบริษัทต่าง ๆ พยายามลดการพึ่งพาทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน

ที่มา : https://www.all-about-industries.com/usa-and-china-impose-massive-export-stops-on-each-other-a-81217c83baa402e9b2fb0705d33a51fb/

About pawarit

Check Also

Xerox ดึง 2 ผู้บริหาร Lexmark ร่วมทีมบริหารระดับสูง หลังควบรวมกิจการ พร้อมตั้ง “คิม เคลปส์” นั่ง Chief People Officer คนใหม่

ในส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อกิจการ Lexmark International, Inc. โดย Xerox Holdings Corporation (NASDAQ: XRX) Xerox ประกาศว่าผู้บริหารระดับสูงของ Lexmark สองท่านจะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของ Xerox …

รายงานใหม่เผย Huawei แอบซุ่มบริหารโรงงานผลิตชิปในจีนกว่า 10 แห่ง เลี่ยงการตรวจสอบจากสหรัฐฯ

รายงานล่าสุดจากสำนักข่าว TheElec เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า Huawei บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ได้บริหารจัดการ โรงงานผลิตชิป (Fab) ในประเทศจีนมาเป็นเวลานานกว่า 10 แห่งแล้ว และหากรวมโรงงานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) จำนวนโรงงานทั้งหมดอาจสูงถึง 20 …