ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งเคยเป็นแกนหลักของรายได้ Samsung กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก โดยเฉพาะหน่วยงาน System LSI ที่รับผิดชอบการออกแบบชิปประมวลผล Exynos และเซ็นเซอร์กล้อง ได้กลายเป็นจุดอ่อนสำคัญ ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของ Samsung Device Solutions (DS) ต้องพิจารณาทางเลือกเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการยุบรวมกับหน่วยงานอื่น หรือการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่

ทางเลือกและการเผชิญหน้าความขัดแย้งทางผลประโยชน์
ในการประชุมหารือเรื่องอนาคตของ System LSI มีการหยิบยกสามทางเลือกหลัก: การรวม System LSI เข้ากับ Samsung MX (หน่วยธุรกิจอุปกรณ์เคลื่อนที่), การรวมเข้ากับ Samsung Foundry (หน่วยผลิตชิป), หรือ การปรับโครงสร้าง System LSI ครั้งใหญ่ หากข้อเสนอการรวมกิจการไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การรวม System LSI เข้ากับ Samsung Foundry นั้นมีความละเอียดอ่อนและอาจนำมาซึ่งผลกระทบที่คาดไม่ถึง เพราะนักออกแบบชิปรายอื่นๆ ที่เป็นลูกค้าของ Samsung Foundry อย่าง Qualcomm หรือ Nvidia อาจรู้สึกไม่ปลอดภัยและกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการรั่วไหลของเทคนิคการผลิตหลักๆ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาพิจารณาหาพันธมิตรการผลิตรายอื่นแทน
ความล้มเหลวต่อเนื่อง: โจทย์ใหญ่ของเสาหลัก Samsung
แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมชี้ว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชะตากรรมขององค์กร และยังไม่มีข้อสรุปที่ง่ายดาย คาดว่าจะมีการประชุมเพิ่มเติมเพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้าย ในช่วงเวลาที่โลกก้าวเข้าสู่ยุค AI และ Samsung ควรจะเร่งเพิ่มบทบาทในตลาดชิปให้มากขึ้น แต่กลับมีผลงานที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความล้มเหลวต่อเนื่องของชิปเรือธง Exynos และ ความล่าช้าในการปรับปรุงธุรกิจหน่วยความจำ ได้ยิ่งทำให้สถานการณ์ของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของ Samsung Electronics แย่ลงไปอีก
การตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่ Samsung ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาสมดุลระหว่างการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับการรักษาความเชื่อมั่นจากลูกค้าสำคัญในตลาดโลก
ที่มา : https://nokiamob.net/2025/05/27/samsung-eyes-major-chip-division-merger-to-boost-sub-2nm-goals/