Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (13 มี.ค.) ว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ในการเพิ่มความหลากหลายให้กับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ พร้อมเสริมว่าบริษัทของอเมริกันพร้อมที่จะอัดฉีดการลงทุนในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็นหนึ่งในแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศที่สำคัญของประเทศไทย และเป็นภาคส่วนสำคัญที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ของไทยกำลังมองหาที่จะขยายตัวในขณะที่พยายามเริ่มต้นเศรษฐกิจที่ซบเซา
“การผลิตเซมิคอนดักเตอร์กระจุกตัวอยู่ในหนึ่งหรือสองประเทศในโลกซึ่งมีความเสี่ยงมากเกินไป” Raimondo กล่าวในงานที่กรุงเทพฯ โดยสรุปว่าสหรัฐฯ จะพยายามผลักดันการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของกรอบเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก (IPEF) เนื่องจากต้องการเพิ่มความหลากหลายในการผลิต
สำหรับ IPEF นำโดยสหรัฐฯ มีเป้าหมายส่วนหนึ่งในการมอบทางเลือกให้กับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนอกเหนือจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีน ประกอบด้วย 14 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย
ในปี 2022 สหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมาย “Chips and Science” ที่ให้เงิน 52,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ การวิจัย และการพัฒนาบุคลากรของสหรัฐอเมริกา
อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไทย ถูกครอบงำโดยบริษัทจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และเนเธอร์แลนด์ ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่กระบวนการ back-end ซึ่งทำให้ประเทศทัดเทียมกับเวียดนามและอินเดีย ตามรายงานของธนาคารไทยพาณิชย์ปี 2566
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยยังเสนอสิ่งจูงใจ เช่น การลดหย่อนภาษีและการยกเว้นอากร เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
“ในขณะที่บริษัทข้ามชาติของสหรัฐฯ มองหาช่องทางในการกระจายห่วงโซ่อุปทานของตน ประเทศไทยจึงกลายเป็นสถานที่ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายการมากขึ้นเรื่อยๆ” Raimondo กล่าว
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Gina Raimondo เดินทางเยือนฟิลิปปินส์ และกล่าวว่าบริษัทของสหรัฐฯ เตรียมประกาศการลงทุนมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่แข็งขันของสหรัฐฯ การลงทุนจะครอบคลุมทั้งด้าน พลังงานแสงอาทิตย์ ยานพาหนะไฟฟ้า และการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล