FedEx กำลังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าและรายได้ในกลุ่มธุรกิจแบบ B2B (Business-to-Business) อย่างจริงจัง โดยได้ประกาศจัดตั้งธุรกิจเฉพาะด้านยานยนต์ขึ้นภายในองค์กร ตามที่ Brie Carere (บรี แคเรร์) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้า เปิดเผยในการประชุมรายงานผลประกอบการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา

ธุรกิจยานยนต์ใหม่นี้มีทีมผู้นำที่ทุ่มเทและ “เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่ง” Carere กล่าวเสริม และยังเน้นย้ำว่า FedEx ได้รับเลือกให้อยู่ในรายชื่อซัพพลายเออร์แห่งปี 2025 ของ General Motors ติดต่อกันเป็นปีที่ 21 แล้ว
“เป้าหมายของเราสำหรับปีงบประมาณ 2569 คือการเติบโตในกลุ่มตลาดรถยนต์ในอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นกลุ่มบริการพรีเมียมที่มีมูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานยานยนต์” Carere กล่าว
โอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ท้าทาย
FedEx กำลังมองหาโอกาสที่จะเป็นพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ให้กับบริษัทรถยนต์จำนวนมากขึ้น เนื่องจากค่าขนส่งรถยนต์สามารถสร้างผลกำไรต่อหน่วยได้มากกว่าการจัดส่งสินค้าปลีกหรืออีคอมเมิร์ซ การดำเนินงานของบริษัทเกิดขึ้นในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานหลายประการ รวมถึงนโยบายภาษีและการค้าที่ผันผวน
Raj Subramaniam (ราช สุบรามาเนียม) ประธานและซีอีโอของ FedEx กล่าวว่า FedEx พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ขนส่งสินค้าทั้ง 3 ล้านราย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจยานยนต์หรือไม่ก็ตาม ในการปรับธุรกิจของพวกเขาให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของภาษี เขาระบุว่า FedEx สามารถปรับเปลี่ยนศักยภาพระดับโลกเพื่อตอบสนองแนวโน้มความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ดังที่เห็นในเดือนพฤษภาคมที่บริษัทลดกำลังการขนส่งทางอากาศจากเอเชียไปยังอเมริกา
“สิ่งนี้ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครที่จะเป็นพันธมิตรที่มีคุณค่าสำหรับลูกค้าของเรา ในขณะที่พวกเขาจัดการกับแนวโน้มความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป ประเมินผลกระทบของภาษีต่อธุรกิจของพวกเขา และปรับห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะสม” Subramaniam กล่าว
ไม่หยุดแค่อุตสาหกรรมยานยนต์: Healthcare และ SME คือเป้าหมายถัดไป
FedEx ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเติบโตในกลุ่มผู้ขนส่งยานยนต์เท่านั้น แต่ยังมองหาปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทดูแลสุขภาพ ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ผู้ขนส่งในยุโรป และลูกค้าขนส่งสินค้าทางอากาศ
Carere กล่าวว่า FedEx ปิดปีงบประมาณ 2568 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ด้วยรายได้ที่เกี่ยวข้องกับบริการดูแลสุขภาพถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่พยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง UPS ในหมวดหมู่นี้ FedEx บรรลุเป้าหมายสำคัญด้านการดูแลสุขภาพในไตรมาส 4 โดยได้รับการรับรอง Center of Excellence for Independent Validators in Pharmaceutical Logistics สำหรับศูนย์กระจายสินค้าและลานขนถ่ายสินค้า
“เมื่อเรามองหาโอกาสที่จะเจาะตลาดกลุ่มการดูแลสุขภาพที่มีอัตรากำไรสูงนี้เพิ่มเติม ฉันมั่นใจว่าความสำเร็จนี้จะปลดล็อกโอกาสที่มากยิ่งขึ้นสำหรับเรา” Carere กล่าว
ที่มา: https://www.supplychaindive.com/news/fedex-auto-logistics-b2b-growth/751909/