การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว Delta Electronics ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการพลังงานและโซลูชันอัจฉริยะ ได้เปิดเผยนวัตกรรมที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมนี้ไปสู่ยุคใหม่ของความแม่นยำและประสิทธิภาพ ด้วยการนำเสนอ Digital Twin Solution สุดล้ำที่งาน SEMICON Southeast Asia 2025

DIATwin: แพลตฟอร์มเสมือนจริงที่เปลี่ยนเกมการผลิต
หัวใจสำคัญของนวัตกรรมนี้คือ DIATwin แพลตฟอร์มการพัฒนาเครื่องจักรเสมือนจริงที่ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถ จำลอง ตรวจสอบ และทดสอบอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ก่อนที่จะนำไปใช้งานจริง สิ่งนี้ช่วยลดการลองผิดลองถูกในสายการผลิตได้อย่างมหาศาล ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และความคุ้มค่าได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
ภายใต้แนวคิด “เพิ่มประสิทธิภาพความแม่นยำด้วย Digital Twin และโซลูชันการผลิตอัจฉริยะ” Delta ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้นในด้านระบบอัตโนมัติขั้นสูง โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และระบบควบคุมอาคาร เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน
High-Speed Wafer Feeder (HSWF): พลิกโฉมการประกอบชิป
หนึ่งในไฮไลต์ที่โดดเด่นคือ High-Speed Wafer Feeder (HSWF) จาก Universal Instruments บริษัทในเครือของ Delta โซลูชันการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงนี้สามารถผสานรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม FuzionSC™ ได้อย่างราบรื่น รองรับอุปกรณ์ป้อนวัตถุดิบที่หลากหลาย และสามารถวางส่วนประกอบที่มีความแม่นยำสูงลงบนซับสเตรตต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
ระบบ HSWF สามารถจัดการกับประเภทเวเฟอร์ได้หลายแบบพร้อมกัน ช่วยเร่งการประกอบที่มีความหนาแน่นสูงและลดระยะเวลาในการออกสู่ตลาดสำหรับอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ยุคถัดไป ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 25% พร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนและอัตราผลผลิต ทำให้แพลตฟอร์มนี้เป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อย่างแท้จริง
“ยุคถัดไปของการผลิตอัจฉริยะถูกกำหนดโดยความอัจฉริยะ การเชื่อมต่อ และความยั่งยืน”
จิมมี่ หวาน (Jimmy Wan) ผู้จัดการประจำประเทศของ Delta Electronics สิงคโปร์และมาเลเซีย กล่าวเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ของ Delta โดยระบุว่า “ในขณะที่อุตสาหกรรมเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการใช้พลังงานไฟฟ้า ผู้ผลิตต้องพิจารณาใหม่ว่าพวกเขาออกแบบ สร้าง และเพิ่มประสิทธิภาพระบบในวงกว้างอย่างไร ด้วยการรวมเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานเข้ากับข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เดลต้าจึงช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เพิ่มความคล่องตัว ความยืดหยุ่น และความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว”
นวัตกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
- เทคโนโลยีควบคุมคุณภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI และเทคโนโลยีการหยิบและวางไดที่แม่นยำสูง
- ระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย VTScada เพื่อการตรวจสอบแบบเรียลไทม์และการรวมระบบที่ราบรื่น
- โซลูชันระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) ที่ครอบคลุม รวมถึงระบบแบตเตอรี่ LFP และแพลตฟอร์มการจัดการพลังงาน DeltaGrid เพื่อการใช้พลังงานที่เหมาะสมที่สุด
Delta Electronics ยังคงยึดมั่นในความยั่งยืน โดยสอดคล้องกับแนวคิดของงาน SEMICON SEA 2025 บริษัทได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการริเริ่มโครงการ ESG (Environmental, Social, and Governance) ทั่วโลก รวมถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และการนำนวัตกรรมประหยัดพลังงานไปใช้ในเมืองอัจฉริยะ พลังงานหมุนเวียน และอาคารสีเขียว
การแสดงนวัตกรรมของ Delta Electronics ในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ที่ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังยั่งยืนและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างแท้จริง